อารัมภบทของอาจารย์ปราโมทย์

พี่น้องที่เคารพครับ .. ขอเรียนว่า ส่วนใหญ่ของปัญหาที่ถูกถามมาเป็นปัญหาขัดแย้งหรือปัญหาคิลาฟียะฮ์ เพราะฉะนั้น ในการตอบปัญหาดังกล่าว หากปัญหาใดไม่สำคัญมากนัก ผมก็จะตอบแบบสรุปตามทัศนะที่มีน้ำหนักด้านหลักฐานมากที่สุดสำหรับผมโดยไม่ได้นำมุมมองด้านตรงข้ามมาด้วย แต่หากปัญหาใดจำเป็นต้องมีการชี้แจง ผมก็จะนำหลักฐาน(และการวิเคราะห์)รายละเอียดทั้งสองด้าน ประกอบในคำตอบด้วย และขอเรียนว่า

(1). คำตอบของผมแทบทั้งหมดไม่ใช่เป็นการอธิบายหะดีษหรืออัล-กุรฺอานเอาเองอย่างที่บางคนเข้าใจ แต่จะมีที่มาจากอิหม่ามทั้ง 4 ท่านที่โลกอิสลามยอมรับและนักวิชาการระดับโลกท่านอื่นๆด้วยทั้งสิ้น เพียงแต่บางครั้งผมมิได้อ้างนามพวกท่านในการตอบก็เพื่อประหยัดเวลาในการเขียนเท่านั้น

(2). คำตอบของผมในปัญหาใด ไม่ถือว่าเป็น "ข้อชี้ขาด" ความขัดแย้งในปัญหานั้น แต่เป็นการตอบตามการมองหลักฐานว่ามีน้ำหนักที่สุดในมุมมองของผม ซึ่งมุมมองของผมอาจจะผิดพลาดก็ได้ พระองค์อัลลอฮ์ ซ.บ. เท่านั้นที่ทรงรู้ดียิ่งในเรื่องนี้ ...

อ.ปราโมทย์ (มะหมูด) ศรีอุทัย


ติดต่ออาจารย์ปราโมทย์โดยตรงได้ที่

1. 1/22 หมู่บ้านสุขสมบูรณ์ ม. 5 ต. นาเคียน อ. เมือง จ. นคร ศรีธรรมราช รหัส 80000

2. เบอร์โทรศัพท์ 086-6859660

3. Facebook

4. เว็บไซต์

5.อีเมล
pramote.sriutai2559@gmail.com

วันอังคารที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2559

คันดูรีย์อัรวาห์ไม่ใช่บิดอะห์ ฎอลาละฮ์จริงหรือ?



ตอบโดย อ.ปราโมทย์ ศรีอุทัย

ถาม
คันดูรีย์(กินบุญ/กินนูรีย์)อัรวาห์ๆ ไม่ใช่บิดอะห์ ฎอลาละฮ์ แต่ว่า ถือว่าเป็น ซุนนะห์ นาบี
ท่านทั้งทั้งหลายพึงทราบเถิดว่าแท้จริง การทำบุญ(อัรวาห์)นั้น หมายถึง การทำซอดาเกาะห์ และขอดุอาให้แก่ผู้ล่วงลับไปแล้ว...
ดูตำรา "ซันญาตอ ชารีอะอ์ "หน่้าที่ 33-34

ตอบ
บอกตรงๆว่า เรื่องการให้บ้านผู้ตายเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารแขกนี่ ผมเบื่อจะพูดเต็มทีแล้ว เอาเป็นว่า ผมไม่เคยเจอปัญหาขัดแย้งเรื่องใดเลยที่นักวิชาการทั้ง 4 มัษฮับจะประสานเสียงตรงกันว่า เป็นบิดอะฮ์ที่น่ารังเกียจบ้าง, เป็นบิดอะฮ์ที่ถูกประณามบ้าง, เป็นบิดอะฮ์ที่ไม่ชอบด้วยหลักศาสนาบ้าง เหมือนกับเรื่องนี้
รวมความแล้ว ไม่มีนักวิชาการที่ได้รับการยอมรับท่านใดกล่าวว่าทำแล้วจะได้บุญอย่างที่เข้าใจกัน
ส่วนใครจะคัดค้านนักวิชาการทั้ง 4 มัษฮับแบบหัวชนฝาว่าไม่ใช่บิดอะฮ์ หรือทำแล้วได้บุญก็เป็นสิทธิ์ของเขาครับ
เราห้ามเขาไม่ได้หรอก เพราะเขาทำด้วยเงินทองของเขา,
ทำตามความเชื่อของเขา และหากเขาทำผิดเขาก็รับผิดชอบต่ออัลลอฮ์เอาเอง ..
เขาไม่ได้ทำด้วยเงินของเรา ไม่ได้ทำตามความเชื่อของเรา และเราก็ไม่ต้องไปรับบาปแทนเขานี่ครับ เมื่อบอกแล้วไม่เชื่อก็ถือว่าจบกันไป จึงป่วยการที่จะมาทะเลาะกันด้วยเรื่องนี้อีก ...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น