อารัมภบทของอาจารย์ปราโมทย์

พี่น้องที่เคารพครับ .. ขอเรียนว่า ส่วนใหญ่ของปัญหาที่ถูกถามมาเป็นปัญหาขัดแย้งหรือปัญหาคิลาฟียะฮ์ เพราะฉะนั้น ในการตอบปัญหาดังกล่าว หากปัญหาใดไม่สำคัญมากนัก ผมก็จะตอบแบบสรุปตามทัศนะที่มีน้ำหนักด้านหลักฐานมากที่สุดสำหรับผมโดยไม่ได้นำมุมมองด้านตรงข้ามมาด้วย แต่หากปัญหาใดจำเป็นต้องมีการชี้แจง ผมก็จะนำหลักฐาน(และการวิเคราะห์)รายละเอียดทั้งสองด้าน ประกอบในคำตอบด้วย และขอเรียนว่า

(1). คำตอบของผมแทบทั้งหมดไม่ใช่เป็นการอธิบายหะดีษหรืออัล-กุรฺอานเอาเองอย่างที่บางคนเข้าใจ แต่จะมีที่มาจากอิหม่ามทั้ง 4 ท่านที่โลกอิสลามยอมรับและนักวิชาการระดับโลกท่านอื่นๆด้วยทั้งสิ้น เพียงแต่บางครั้งผมมิได้อ้างนามพวกท่านในการตอบก็เพื่อประหยัดเวลาในการเขียนเท่านั้น

(2). คำตอบของผมในปัญหาใด ไม่ถือว่าเป็น "ข้อชี้ขาด" ความขัดแย้งในปัญหานั้น แต่เป็นการตอบตามการมองหลักฐานว่ามีน้ำหนักที่สุดในมุมมองของผม ซึ่งมุมมองของผมอาจจะผิดพลาดก็ได้ พระองค์อัลลอฮ์ ซ.บ. เท่านั้นที่ทรงรู้ดียิ่งในเรื่องนี้ ...

อ.ปราโมทย์ (มะหมูด) ศรีอุทัย


ติดต่ออาจารย์ปราโมทย์โดยตรงได้ที่

1. 1/22 หมู่บ้านสุขสมบูรณ์ ม. 5 ต. นาเคียน อ. เมือง จ. นคร ศรีธรรมราช รหัส 80000

2. เบอร์โทรศัพท์ 086-6859660

3. Facebook

4. เว็บไซต์

5.อีเมล
pramote.sriutai2559@gmail.com

วันพุธที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2559

วิเคราะห์หะดีษ .. กิตาบุลลอฮ์และซุนนะฮ์ (ตอนที่ 2)


โดย อ.ปราโมทย์ ศรีอุทัย

(ตอนที่ 2)

หะดีษเรื่องให้ยึดมั่นในกิตาบุลลอฮ์และซุนนะฮ์ (ตามที่ผมตรวจสอบพบ) จะมีรายงานมารวม 7 กระแสรายงานด้วยกันคือ ...
1. จากท่านอัมรฺ บินเอาฟ์ ร.ฎ.จากการบันทึกของท่านอิบนุอับดิลบัรรฺ ในหนังสือ “อัต-ตัมฮีด” ...
2. จากท่านอบูสะอีด อัล-คุดรีย์ ร.ฎ. จากการบันทึกของท่านอัล-คอฏีบในหนังสือ “อัล-ฟะกีฮ์ วัล มุตะฟักกีฮ์” ...
3. จากท่านอนัส บินมาลิก ร.ฎ. จากการบันทึกของท่านอบู อัช-ชัยค์ในหนังสือ “เฏาะบะกอต อัลอัศบะฮานียีน” ...
4. จากท่านอบูฮุร็อยเราะฮ์ ร.ฎ. จากการบันทึกของท่านอัล-หากิมในหนังสือ “อัล-มุสตัดร็อก”, ท่านอัล-บัยฮะกีย์ในหนังสือ “อัส-สุนัน อัล-กุบรออ์”, และท่านอัด-ดารุกุฏนีย์ในหนังสือ “อัส-สุนัน” ...
5. จากการบันทึกของท่านอิบนุฮิชาม ในหนังสือ “อัซ-ซีเราะฮ์” ของท่าน เล่มที่ 4 หน้า 801 โดยรายงานมาจากท่านมุหัมมัด บินอิสหาก บินยะซารฺ ...
6. จากท่านอิบนุอับบาส ร.ฎ. จากการบันทึกของท่านอัล-หากิมและท่านอัล-บัยฮะกีย์ ...
7. จากการบันทึกของท่านมาลิก บินอนัส ในหนังสือ “อัล-มุวัฏเฏาะอ์”

* * * * * * * * * * * * * * * *
ต่อไปนี้ คือสายรายงาน, ตัวบท, และการวิเคราะห์แต่ละกระแสรายงานของหะดีษนี้ ...
(1). ท่านอิบนุอับดิลบัรรฺ (สิ้นชีวิตปี ฮ.ศ. 463)ได้บันทึกหะดีษบทนี้ในหนังสือ “อัต-ตัมฮีด” ของท่าน เล่มที่ 24 หน้า 331 โดยรายงานมาจากท่านกะษีรฺ บินอับดุลลอฮ์, จากบิดาคือท่านอับดุลลอฮ์ บินอัมรฺ, ซึ่งรายงานจากบิดาของท่านคือท่านอัมรฺ บินเอาฟ์ ร.ฎ. จากท่านรอซู้ลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะซัลลัม ...
วิเคราะห์
หะดีษบทนี้, จากกระแสรายงานนี้ เป็นรายงานที่เฎาะอีฟมาก! เพราะท่านกะษีรฺ บินอับดุลลอฮ์ เป็นผู้รายงานที่เฎาะอีฟ และนักวิชาการบางท่านกล่าววิจารณ์ว่า เขาชอบพูดเท็จ .. ดังการสรุปของท่านอิบนุหะญัรฺ อัล-อัสเกาะลานีย์ในหนังสือ “ตักรีบุตตะฮ์ซีบ” เล่มที่ 2 หน้า 132, และท่านอัษ-ษะฮะบีย์ในหนังสือ “อัล-กาชิฟ” เล่มที่ 3 หน้า 5 ซึ่งเราสามารถจะตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับประวัติของท่านกะษีรฺผู้นี้จากแหล่งอื่นๆ เช่นจากหนังสือ “มีซาน อัล-เอี๊ยะอฺติดาล” เล่มที่ 3 หน้า 406-408, และหนังสือ “ตะฮ์ซีบุตตะฮ์ซีบ” เล่มที่ 8 หน้า 377 เป็นต้น ...
(2). ท่านอัล-คอฏีบ ได้บันทึกในหนังสือ “อัล-ฟะกีฮ์ วัลมุตะฟักกีฮ์” เล่มที่ 1 หน้า 94 .. โดยสืบสายรายงานไปถึงท่านซัยฟ์ บินอุมัรฺ, จากท่านอะบาน บินอิสหากอัล-อะสะดีย์, จากท่านอัศ-เศาะบาห์ บินมุหัมมัด บินอบีย์หาซิม, จากท่านอบูสะอีด อัล-คุดรีย์ ร.ฎ. ซึ่งกล่าวว่า ...
خَرَجَ رَسُوْلُ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ عَلَيْنَا فِىْ مَرَضِهِ الَّذِىْ تُوُفِّىَ فِيْهَ، وَنَحْنُ فِىْ صَلاَةِ الْغَدَاةِ، فَذَهَبَ أَبُوْ بَكْرٍ لِيَتَأَخَّرَ، فَأَشَارَ إِلَيْهِ مَكَانَكَ وَصَلَّى مَعَ النَّاسِ، فَلَمَّا انْصَرَفَ حَمِدَاللهَ وَأَثْنىَ عَلَيْهِ ثُمَّ قَالَ : يَا أَيُّهَاالنَّاسُ، إِنِّىْ قَدْ تَرَكْتُ فِيْكُمُ الثَّقَلَيْنِ كِتَابَ اللهِ وَسُنَّتِىْ، فَاسْتَنْطِقُوْاالْقُرْآنَ بِسُنَّتِىْ، وَلاَ تَعْسِفُوْهُ، فَإِنَّهُ لَنْ تَعْمَى أَبْصَارُكُمْ وَلَنْ تَقْصُرَأَيْدِيْكُمْ مَا أَخَذْتُمْ بِهِمَا ...
“ท่านรอซู้ลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะซัลลัม ได้ออกมายังพวกเราในการป่วยที่ท่านถึงแก่ชีวิตในครั้งนั้น โดยที่พวกเรากำลังนมาซซุบห์กันอยู่ ท่านอบูบักรฺ(ซึ่งกำลังทำหน้าที่เป็นอิหม่าม) จึงทำท่าจะถอยหลังลงมา แต่ท่านนบีย์ก็ส่งสัญญาณให้ท่านประจำที่ตามเดิม และท่านก็นมาซพร้อมกับประชาชน จนเมื่อท่านนมาซเสร็จแล้วท่านจึงกล่าวสรรเสริญอัลลอฮ์ ต่อจากนั้นท่านจึงกล่าวว่า
.. “ประชาชนทั้งหลาย แท้จริงฉันได้ละไว้ในหมู่พวกท่านซึ่งภาระหนัก 2 อย่างด้วยกัน (นั่นคือ) คัมภีร์ของอัลลอฮ์ และซุนนะฮ์ของฉัน ดังนั้นพวกท่านพึงต้องพูด(คืออธิบาย)อัล-กุรฺอ่านด้วยซุนนะฮ์ของฉัน และพวกท่านอย่าหันเหออกนอกลู่นอกทางมัน เพราะว่าสายตาของพวกท่านจะไม่มีวันบอด และมือของพวกท่านจะไม่มีวันหดสั้น ตราบใดที่พวกท่านยึดมั่นสองอย่างนี้ไว้” ...
วิเคราะห์
สายรายงานหะดีษนี้, จากกระแสนี้ถือเป็นรายงานที่เฎาะอีฟเช่นเดียวกัน เพราะท่านซัยฟ์ บินอุมัรฺ และท่านอัศ-เศาะบาห์ บินมุหัมมัด บินอบีย์หาซิม เป็นผู้รายงานที่เฎาะอีฟ .. ดังคำกล่าวของท่านอิบนุหะญ้รฺ อัล-อัสเกาะลานีย์ในหนังสือ “ตักรีบุต ตะฮ์ซีบ” เล่มที่ 1 หน้า 344 และหน้า 364 ตามลำดับ ...
(3). ท่านอบู อัช-ชัยค์ได้บันทึกในหนังสือ “เฏาะบะกอต อัล-อัศบะฮานียีน” เล่มที่ 4 หน้า 68 หรือหะดีษที่ 834 .. โดยรายงานมาจากท่านอะห์มัด บินสะอีด บินอุรฺวะฮ์, จากท่านอับดุลวาฮิด บินฆิยาษ, จากท่านฮิชาม บินซัลมาน อัล-มะญาชิอีย์, จากท่านยะซีด บินอะบาน อัรฺ-เราะกอชีย์, จากท่านอนัส บินมาลิก ร.ฎ. จากท่านรอซู้ลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะซัลลัม ซึ่งกล่าวว่า ...
لَقَدْ تَرَكْتُ فِيْكُمْ مَا إِنْ أَخَذْتُمْ بِهِ لَنْ تَضِلُّوْا : كِتَابَ اللهِ وَسُنَّةَ نَبِيِّهِ
“แท้จริงฉันได้ละไว้ในหมู่พวกท่าน สิ่งซึ่งหากพวกท่านยึดมั่นไว้ พวกท่านจะไม่หลงทาง (นั่นคือ) คัมภีร์ของอัลลอฮ์ และซุนนะฮ์แห่งนบีย์ของพระองค์” ...
วิเคราะห์
สายรายงานของหะดีษนี้เป็นสายรายงานที่เฎาะอีฟเช่นเดียวกัน เพราะท่านยะซีด บินอะบาน อัรฺ-เราะกอชีย์ (สิ้นชีวิตก่อน ฮ.ศ. 200) ถูกวิจารณ์ว่า เป็นผู้รายงานที่เฎาะอีฟ
(จากหนังสือ “ตักรีบุตตะฮ์ซีบ” เล่มที่ 2 หน้า 361) ...
(4). ท่านอัล-หากิมได้บันทึกในหนังสือ “อัล-มุสตัดร็อก” เล่มที่ 1 หน้า 172 หรือหะดีษที่ 319, ท่านอัล-บัยฮะกีย์ได้บันทึกในหนังสือ “อัส-สุนัน อัล-กุบรออ์” เล่มที่ 10 หน้า 114 และท่านอัด-ดารุกุฏนีย์ได้บันทึกในหนังสือ “อัส-สุนัน” เล่มที่ 4 หน้า 245 โดยรายงานมาจากท่านศอลิห์ บินมูซา อัฏ-ฏ็อลฮีย์, จากท่านอับดุลอะซีซ บินรอเฟียะอฺ, จากท่านอบูศอลิห์, จากท่านอบูฮุร็อยเราะฮ์ ร.ฎ. จากท่านรอซู้ลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะซัลลัม (ซึ่งสำนวนในที่นี้เป็นสำนวนจากการบันทึกของท่านอัล-บัยฮะกีย์) มีข้อความว่า ...

إِنِّىْ قَدْ خَلَّفْتُ فِيْكُمْ مَا لَنْ تَضِلُّوْا بَعْدَهُمَا مَا أَخَذْتُمْ بِهِمَا أَوْ عَمِلْتُمْ بِهِمَا، كِتَابَ اللهِ وَسُنَّتِىْ، وَلَنْ يَتَفَرَّقَا حَتىَّ يَرِدَا عَلَىَّ الْحَوْضَ
“แท้จริง ฉันได้ละไว้ในหมู่พวกท่าน สิ่งซึ่งพวกท่านจะไม่หลงทางหลังจากมันทั้งสองตราบใดที่พวกท่านยึดมั่นหรือปฏิบัติด้วยมันทั้งสอง (นั่นคือ) คัมภีร์ของอัลลอฮ์และซุนนะฮ์ของฉัน และมันทั้งสองจะไม่แยกจากกันจนกระทั่งทั้งสองจะไปถึงฉัน ณ อัล-เหาฎ์ (สระน้ำในสวนสวรรค์)” ...
วิเคราะห์
รายงานนี้ก็เป็นรายงานที่เฎาะอีฟเหมือน 3 กระแสแรก เพราะในสายรายงานมีชื่อของท่านศอลิห์ บินมูซา อัฏ-ฏ็อลฮีย์ ซึ่งเป็นผู้รายงานที่เฎาะอีฟ ...
ท่านผู้วิเคราะห์ในเว็บไซด์ของชีอะฮ์ได้นำเอาข้อมูลมากมายที่วิจารณ์ท่านศอลิห์ผู้นี้ อันเป็นข้อเขียนของท่านอิบนุอดีย์ในหนังสือ “อัล-กามิล ฟิดดุอะฟาอ์” โดยท่านอิบนุอดีย์ได้อ้างคำวิจารณ์ของท่านอิบนุหัมมาด, ท่านยะห์ยา บินมะอีน, ท่านบุคอรีย์, ท่านอัน-นะซาอีย์ และท่านซะอฺดีย์ .. ซึ่งท่านอิบนุหะญัรฺ อัล-อัสเกาะลานีย์ ได้สรุปประวัติของท่านศอลิห์บินมูซา อัฏ-ฏ็อลฮีย์ จากคำวิจารณ์เหล่านั้นไว้เพียงสั้นๆในหนังสือ “ตักรีบุตตะฮ์ซีบ” เล่มที่ 1 หน้า 363 ว่า “มัตรูก”.. คือเป็นผู้รายงานที่ถูกเมิน (คือขาดความน่าเชื่อถือมาก) ..


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น