โดย อ.ปราโมทย์ ศรีอุทัย
(ตอนที่ 3)
(5). ท่านอิบนุฮิชาม ได้บันทึกในหนังสือ “อัซ-ซีเราะฮ์” ของท่าน ตอนที่ 4 หน้า 801 โดยอ้างการรายงานมาจากท่านมุหัมมัด บินอิสหาก บินยะซารฺ, จากท่านรอซู้ลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ซึ่งกล่าวใน "คุฏบะฮ์วันอะรอฟะฮ์" โดยมีข้อความยืดยาว และมีข้อความตอนหนึ่งว่า ...
وَقَدْ تَرَكْتُ فِيْكُمْ مَا إِنِ اعْتَصَمْتُمْ بِهِ لَنْ تَضِلُّوْا أَبَدًا، أَمْرًا بَيِّنًا، كِتَابَ اللهِ وَسُنَّةَ نَبِيِّهِ
“แน่นอน ฉันได้ละไว้ในหมู่พวกท่าน สิ่งซึ่งกระจ่างชัดที่สุด .. หากพวกท่านยึดมั่นมันไว้พวกท่านก็จะไม่หลงทางตลอดไป,.. (นั่นคือ) กิตาบุลลอฮ์และซุนนะฮ์แห่งนบีย์ของพระองค์” ...
วิเคราะห์
ท่านมุหัมมัด บินอิสหาก บินยะซารฺ ผู้อ้างรายงานหะดีษนี้มาจากท่านบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เป็นศิษย์ตาบิอีนระดับอาวุโส, มีชีวิตอยู่ระหว่างปีฮ.ศ. 85-151 ...
ตามปกติท่านมุหัมมัด บินอิสหากเป็นผู้รายงานที่พอจะเชื่อถือได้ แต่ถูกวิจารณ์ว่าชอบรายงานหะดีษในลักษณะتَدْلِيْسٌ (มั่วนิ่ม) .. ประกอบกับท่านได้อ้างรายงานหะดีษนี้มาจากท่านนบีย์ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะซัลลัมโดยมิได้ระบุนามเศาะหาบะฮ์และตาบิอีนที่ถ่ายทอดหะดีษนี้ให้ท่านไว้ด้วย หะดีษนี้จากการรายงานของท่านจึงมีลักษณะเป็นหะดีษมุอฺฎ็อล ...
หมายเหตุ
หะดีษมุอฺฎ็อล หมายถึง ... “หะดีษซึ่งมีผู้รายงาน ตกหล่นหรือขาดหายไป ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปต่อเนื่องกัน .. จาก “ตอนกลาง” ของสายรายงาน” ...
หะดีษมุอฺฎ็อล ถือเป็นหะดีษเฎาะอีฟและไม่ได้รับความเชื่อถือ ...
แต่มีสิ่งที่น่าสังเกตในรายงานข้างต้นนี้อยู่ 2 ประการคือ ...
1. แม้สายรายงานนี้ของท่านอิบนุฮิชาม, จากท่านมุหัมมัด บินอิสหาก จะเป็นสายรายงานที่มุอฺฎ็อลหรือขาดตอน แต่ข้อความของคุฏบะฮ์วันอะรอฟะฮ์ - ทั้งหมด - ที่มีกล่าวในรายงานนี้ รวมทั้งข้อความเรื่องให้ยึดถือกิตาบุลลอฮ์และซุนนะฮ์ ล้วนถูกบันทึกด้วย "สายรายงานที่ต่อเนื่อง" มาจากกระแสอื่น จากการบันทึกของนักวิชาการหะดีษท่านอื่น มายืนยันและสนับสนุนทั้งสิ้น ...
2. ท่านมุหัมมัด บินอิสหาก ถูกกล่าวหาว่า เป็นชีอะฮ์หรือฝักใฝ่กับชีอะฮ์, ดังนั้นการที่ผู้ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นชีอะฮ์ กลับรายงานหะดีษบทนี้ - เรื่องให้ยึดถือกิตาบุลลอฮ์และซุนนะฮ์ - มาสอดคล้องกับรายงานของชาวซุนนะฮ์จึงเป็นเรื่องที่ผิดธรรมชาติของชีอะฮ์ ซึ่งปกติจะไม่ยอมรับหรือรายงานหะดีษใดให้สอดคล้องกับชาวซุนนะฮ์เด็ดขาด .. เว้นแต่เมื่อมันไปสนับสนุนแนวทางของชีอะฮ์ด้วย
หรือมิฉะนั้นก็ต่อเมื่อพวกเขาปฏิเสธไม่ได้ว่า มันเป็นหะดีษที่ถูกต้องจริงๆเท่านั้น ซึ่งผมเห็นว่า การที่ท่านมุหัมมัด บินอิสหาก ได้รายงานหะดีษบทนี้ ก็น่าจะจัดเข้าอยู่ในกรณีนี้ ...
จะอย่างไรก็ตาม - ตามหลักวิชาการหะดีษแล้ว - หะดีษกระแสนี้ รวมถึงรายงานที่ผ่านมา 4 กระแสข้างต้น -- ถือเป็น "รายงาน" ที่เฎาะอีฟทั้งหมด ...
(6). ท่านอัล-หากิม ได้บันทึกในหนังสือ “อัล-มุสตัดร็อก” เล่มที่ 1 หน้า 171 หรือหะดีษที่ 318, และท่านอัล-บัยฮะกีย์ก็ได้รายงานหะดีษบทเดียวกันนี้มาจากท่านอัล-หากิมในหนังสือ “อัส-สุนัน อัล-กุบรออ์” เล่มที่ 10 หน้า 114 โดยสืบสายรายงานมาจากท่านอิสมาอีล บินอับดุลลอฮ์ อบีย์อุวัยส์, จากบิดาคือท่านอับดุลลอฮ์ บินอับดุลลอฮ์ อบีย์อุวัยส์, จากท่านเษารฺ บินซัยด์ อัด-ดีลีย์, จากท่านอิกริมะฮ์, จากท่านอิบนุอับบาส ร.ฎ. มีข้อความ (ดังสำนวนการบันทึกของของท่านอัล-บัยฮะกีย์) ว่า ...
أَنَّ رَسُوْلَ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ خَطَبَ النَّاسَ فَىْ حَجَّةِ الْوَدَاعِ فَقَالَ : يَا أَيُّهَاالنَّاسُ! إِنِّىْ قَدْ تَرَكْتُ فَيْكُمْ مَا إِنِ اعْتَصَمْتُمْ بِهِ فَلَنْ تَضِلُّوْا أَبَدًا، كِتَابَ اللهِ وَسُنَّةَ نَبِيِّهِ
ท่านรอซู้ลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวคุฏบะฮ์(อบรม) แก่ประชาชนในหัจญะตุ้ลวะดาอฺ (หัจญ์อำลา) โดยท่านกล่าวว่า ...
“ประชาชนทั้งหลาย แท้จริงฉันได้ละไว้ในหมู่พวกท่าน สิ่งซึ่งหากพวกท่านยึดมั่นต่อมัน พวกท่านก็จะไม่หลงทางตลอดไป (นั่นคือ) คัมภีร์ของอัลลอฮ์ และซุนนะฮ์แห่งนบีย์ของพระองค์”
วิเคราะห์
สถานภาพผู้รายงานหะดีษบทนี้แต่ละท่าน, จากกระแสรายงานข้างต้นนี้ มีดังต่อไปนี้ ...
ก. ท่านอิสมาอีล บินอับดุลลอฮ์ อบีย์อุวัยส์
มีศักดิ์เป็นหลาน .. คือเป็นลูกของน้องสาวท่านอิหม่ามมาลิก กับท่านอับดุลลอฮ์ อบีย์อุวัยส์ผู้เป็นสามี, สิ้นชีวิตในปี ฮ.ศ. 226 ...
ท่านผู้วิเคราะห์หะดีษนี้ในเว็บไซด์ข้างต้น ได้นำเสนอ “จุดบกพร่อง” ของท่านอิสมาอีล อย่างยืดยาวโดยอ้าง "ข้อมูลเดียวกัน" ซ้ำหลายครั้งดังกล่าวมาแล้ว ซึ่งบทสรุปข้อบกพร่องจริงๆก็ได้แก่คำพูดของท่านอิบนุอดีย์ในหนังสือ “อัล-กามิล ฟิดดุอะฟาอ์” ที่ถูกนำมาอ้างอิงไว้ในตอนท้ายคือ ...
ท่านยะห์ยา บินมะอีนกล่าวว่า อิบนิ อบีย์อุวัยส์และบิดาของเขา ขโมยหะดีษ
ท่านอัน-นัฎรฺ บินสะละมะฮ์ อัล-มัรฺรูซีย์กล่าวว่า อิบนิ อบีย์อุวัยส์ เป็นจอมโกหก
ท่านอัน-นะซาอีย์กล่าวว่า อิสมาอีล บินอบีย์อุวัยส์นั้น ไม่น่าเชื่อถือ
ท่านอิหม่ามอะห์มัด บินฮัมบัลกล่าวว่า อิบนิ อบีย์อุวัยส์ ไม่มีอะไร และบิดาของเขาก็เฎาะอีฟในหะดีษ ...
อธิบาย
ก่อนอื่น ผมขอเสนอรายนามนักวิชาการที่ “ให้ความเชื่อถือ” ต่อท่านอิสมาอีล บินอับดุลลอฮ์ อบีย์อุวัยส์ให้ท่านผู้อ่านได้รับทราบไว้ก่อน แล้วจะชี้แจงข้อกล่าวหาข้างต้นในลำดับต่อไป ...
นักวิชาการที่ให้ความเชื่อถือท่านอิสมาอีล บินอับดุลลอฮ์ อบีย์อุวัยส์ ...
1. ท่านบุคอรีย์, ท่านมุสลิม, ท่านอบูดาวูด, ท่านอัต-ติรฺมีซีย์, และท่านอิบนุมาญะฮ์ ได้ยอมรับท่านอิสมาอีล บินอับดุลลอฮ์ อบีย์อุวัยส์ เป็นผู้รายงานหะดีษในตำราของพวกท่าน ...
2. ท่านอบูฏอลิบ ได้รายงานคำพูดท่านอิหม่ามอะห์มัด อิบนุหัมบัลซึ่งกล่าววิจารณ์ท่านอิสมาอีลว่า .. لاَ بَأْسَ بِهِ (เขาไม่มีปัญหา) ...
(จากหนังสือ “ตะฮ์ซีบุตตะฮ์ซีบ" เล่มที่ 1 หน้า 271) ...
3. ท่านอัล-อัจญลีย์กล่าวว่า .. เขาเป็นชาวกูฟะฮ์ที่เชื่อถือได้, ท่านยะห์ยา บินมะอีน, ท่านอะห์มัด และท่านบุคอรีย์ต่างก็ชมเชยเขา ...
4. ท่านอัล-คอลีลีย์ ได้คัดลอกไว้ในหนังสือ “อัล-อิรฺชาด” ว่า ท่านอบูหาติม กล่าวว่า เขาแน่นอน (ثَبْتٌ)ในสภาพของเขา, และมีระบุในหนังสือ “อัล-กามิล” ว่า ท่านอบูหาติม กล่าวว่า เขาเป็นหนึ่งจากผู้ที่เชื่อถือได้ (ثِقَةٌ) ...
(ข้อมูลของข้อ 3 และข้อ 4 จากหนังสือ “ตะฮ์ซีบุต ตะฮ์ซีบ” เล่มที่ 1 หน้า 272 และตะอฺลีกหนังสือ “مَعْرِفَةُ الرُّوَاةِ الْمُتَكَلَّمِ فِيْهِمْ بِمَا لاَ يُوْجِبُ الرَّدَّ” ของท่านอัษ-ษะฮะบีย์ หน้า 67-68) ...
จากข้อมูลที่ได้นำเสนอมานี้จะเห็นได้ว่า ในส่วนของท่านยะห์ยา บินมะอีนและท่านอิหม่ามอะห์มัด อิบนุฮัมบัล มีมุมมองที่ไม่แน่นอนชัดเจนเกี่ยวกับท่านอิสมาอีล บินอับดุลลอฮ์ อบีย์อุวัยส์ .. คือบางครั้งก็ไม่เชื่อถือและบางครั้งก็ให้ความเชื่อถือ ...
ในส่วนเจ้าของตำราหะดีษที่เชื่อถือได้ทั้ง 6 เล่ม, --โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ท่านบุคอรีย์และท่านมุสลิม -- (ยกเว้นท่านอัน-นะซาอีย์ผู้เดียว) ต่างก็ยอมรับท่านอิสมาอีลผู้นี้เป็นผู้รายงานที่เชื่อถือได้ในตำรา “อัศ-เศาะเหี๊ยะฮ์” และ “อัส-สุนัน” ของพวกท่าน สิ่งนี้จึงเป็นข้อหักล้างคำพูดของท่านยะห์ยา บินมะอีนที่กล่าวว่า ท่านอิสมาอีลและบิดา เป็นผู้ขโมยหะดีษ, และหักล้างคำพูดท่านอัล-นัฎรฺ บินสะละมะฮ์ อัล-มัรฺรูซีย์ที่กล่าวหาท่านอิสมาอีล ว่า เป็นจอมโกหก ...
เพราะถ้าข้อกล่าวหานี้เป็นความจริง ทั้งท่านบุคอรีย์และท่านมุสลิมก็คงไม่ยอมรับท่านอิสมาอีลให้เป็นผู้รายงานหะดีษในหนังสือ “อัศ-เศาะเหี๊ยะฮ์” ของพวกท่านเป็นแน่ ...
ในส่วนของท่านอัน-นะซาอีย์ สาเหตุที่ท่านไม่ให้ความเชื่อถือต่อท่านอิสมาอีล ก็เพราะท่านอิสมาอีลสารภาพว่า บางครั้งตนเองเคยกุหะดีษแก่ชาวมะดีนะฮ์เมื่อพวกเขาขัดแย้งกันในเรื่องใดระหว่างพวกเขา .. ดังที่มีระบุในหนังสือ “ตะฮ์ซีบุตตะฮ์ซีบ” เล่มที่ 1 หน้า 272 และหนังสือ “สิยัรฺ อะอฺลามิ้นนุบะลาอ์” เล่มที่ 9 หน้า 121 นั้น ...
ท่านอิบนุหะญัรฺ อัล-อัสเกาะลานีย์ได้กล่าวชี้แจงในกรณีนี้ว่า ...
قُلْتُ : وَهَذَا هُوَ الَّذِىْ بَانَ لِلنَّسَائِىِّ مِنْهُ حَتَّى تَجَنَّبَ حَدِيْثَهُ، وَأَطْلَقَ الْقَوْلَ فِيْهِ بِأَنَّهُ لَيْسَ بِثِقَةٍ، وَلَعَلَّ هَذَا كَانَ مِنْ إِسْمَاعِيْلَ فِىْ شَبِيْبَتِهِ ثُمَّ انْصَلَحَ .....
“ฉันขอกล่าวว่า นี่คือสิ่งซึ่งปรากฏแก่ท่านอัน-นะซาอีย์จากตัวเขา (อิสมาอีล) จนกระทั่งท่านอัน-นซาอีย์ได้หลีกห่างจากหะดีษของเขา และกล่าวโดยปราศจากเงื่อนไขใดๆว่าเขาเชื่อถือไม่ได้, ซึ่งบางที เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ท่านอิสมาอีลได้กระทำในวัยหนุ่ม และต่อมาเขาก็ปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น (จนทำให้ได้รับความเชื่อถือแม้กระทั่งจากท่านบุคอรีย์และมุสลิม)”
(จากหนังสือ “ตะฮ์ซีบุตตะฮ์ซีบ” เล่มที่ 1 หน้า 272 - 273) ...
สรุปสถานภาพของท่านอิสมาอีล บินอับดุลลอฮ์ อบีย์อุวัยส์
ท่านอัษ-ษะฮะบีย์กล่าวว่า ...
كَانَ عَالِمَ أَهْلِ الْمَدِيْنَةِ وَمُحَدِّثَهُمْ فِىْ زَمَانِهِ عَلَى نَقْصٍ فِىْ حَفْظِهِ وَإِتْقَانِهِ، وَلَوْلاَ أَنَّ الشَّيْخَيْنِ إِحْتَجَّابِهِ لَزُحْزِحَ حَدِيْثُهُ عَنْ دَرَجَةِ الصَّحِيْحِ إِلَى دَرَجَةِ الْحَسَنِ، هَذَا الَّذِىْ عِنْدِىْ فِيْهِ
“เขา (อิสมาอีล บินอับดุลลอฮ์ อบีย์อุวัยส์) เป็นผู้รู้แห่งเมืองมะดีนะฮ์, และเป็นนักวิชาการหะดีษของพวกนั้นในสมัยของเขา โดยที่เขามีจุดบกพร่องบ้างในด้านความจำและความประณีต, ถ้าไม่เพราะท่านบุคอรีย์และท่านมุสลิมได้อ้างเขาเป็นหลักฐานแล้ว หะดีษของเขาก็จะถูกลดจากระดับเศาะเหี๊ยะฮ์ไปสู่ระดับหะซันแน่นอน นี่คือ มุมมองของฉันในตัวเขา”
(จากหนังสือ “ซิยัรฺอะอฺลามินนุบะลาอ์” เล่มที่ 9 หน้า 121) ...
ความหมายจากคำกล่าวนี้ก็คือ ท่านอัษ-ษะฮะบีย์มองว่า หะดีษจากการรายงานของท่านอิสมาอีล บินอับดุลลอฮ์ อบีย์อุวัยส์ หากจะถือว่าเป็นหะดีษเศาะเหี๊ยะฮ์ก็ย่อมได้เพราะเขาเป็นผู้รายงานที่ท่านบุคอรีย์และท่านมุสลิมยอมรับ ...
แต่ถ้าไม่ยอมรับว่าหะดีษของเขาเป็นหะดีษเศาะเหี๊ยะฮ์ (เพราะเขามีความบกพร่องบ้างด้านความทรงจำ) ก็ต้องถือว่าหะดีษของเขาอยู่ในระดับ “หะดีษหะซัน” เป็นอย่างน้อย ...
ด้วยเหตุนี้ ท่านอัษ-ษะฮะบีย์จึงนำท่านอิสมาอีลผู้นี้ ไปอยู่ในกลุ่ม “ผู้รายงานที่ถูกวิจารณ์ ในสิ่งซึ่งไม่ทำให้หะดีษของเขาต้องถูกปัดทิ้ง”...
(ดูหนังสือ مَعْرِفَةُ الرُّوَاةِ الْمُتَكَلَّمِ فِيْهِمْ بِمَا لاَيُوْجِبُ الرَّدَّ หมายเลขที่ 33) ...
ส่วนท่านอิบนุหะญัรฺ อัล-อัสเกาะลานีย์ ได้สรุปสถานภาพของท่านอิสมาอีลในหนังสือ “ตักรีบุตตะฮ์ซีบ” เล่มที่ 1 หน้า 71 ว่า ...
((صَدُوْقٌ، أَخْطَأَ فِىْ أَحَادِيْثَ مِنْ حِفْظِهِ))
“เขาพอจะเชื่อถือได้, มีความผิดพลาดในการรายงานหะดีษหลายบทอันเนื่องมาจากความจำของเขา”
จะเห็นได้ว่า สถานภาพท่านอิสมาอีล บินอับดุลลอฮ์ อบีย์อุวัยส์ตามมุมมองของท่านอัษ-ฮะบีย์และท่านอิบนุหะญัรฺ อัล-อัสเกาะลานีย์ก็คือ صَدُوْقٌ (พอจะเชื่อถือได้) หรืออีกนัยหนึ่ง เขาเป็นผู้รายงานของหะดีษหะซัน
ส่วนความบกพร่องด้านความทรงจำของเขา ก็ไม่ถึงขั้นที่เรียกว่า سَيِّئُ الْحِفْظِ (คือความจำแย่มากหรือความจำเสื่อม) อันเป็นคุณสมบัติของผู้รายงานหะดีษเฎาะอีฟ ...
สรุปแล้ว ท่านอิสมาอีล บินอับดุลลอฮ์ อบีย์อุวัยส์ จึงมิใช่ผู้รายงานหะดีษเฎาะอีฟดังการวิเคราะห์ในเว็บไซด์ แต่ถือว่าเขาเป็นผู้รายงานของ "หะดีษหะซัน" ดังคำกล่าวของท่านอัษ-ษะฮะบีย์ วัลลอฮุ อะอฺลัม ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น