โดย อ.ปราโมทย์ ศรีอุทัย
5.2 การฟัตวาของท่านอิบนุอับบาส
ท่านอบูญัมเราะฮ์ ได้รายงานมาว่า ...
سِمِعْتُ ابْنَ عَبَّاسٍ يُسْأَلُ عَنْ مُتْعَةِ النِّسَاءِ فَرَخَّصَ، فَقَالَ لَهُ مَوْلىً لَهُ : إِنَّمَا ذَلِكَ فِى
الْحَالِ الشَّدِيْدِ وَقِلَّةِ النِّسَاءِ أَوْ نَحْوِهِ، فَقَالَ ابْنُ عَبَّاسٍ : نَعَمْ (صَدَقْتَ)!
“ฉันได้ยินท่านอิบนุอับบาส ร.ฎ. ถูกถามถึงเรื่องนิกาห์มุตอะ
(บันทึกโดยท่านบุคอรีย์ หะดีษที่ 5116 และท่านอัฏ-เฏาะหาวีย์ในหนั
อีกสำนวนหนึ่งของหะดีษบทนี้
إِنَّمَا كَانَ ذَلِكَ فِى الْغَزْوِ وَالنِّسَاءُ قَلِيْلٌ
“การผ่อนผันเรื่องนี้ มีเฉพาะในภาวะสงครามและสตรี
(บันทึกโดยท่านอัล-บัยฮะกีย
คำว่า “บ่าวของท่าน” ในที่นี้ ท่านอิบนุหะญัรฺ อัล-อัสเกาะลานีย์กล่าวว่า ท่านมั่นใจว่าน่าเป็นท่านอิ
(จากหนังสือ “ฟัตหุ้ลบารีย์” ของท่านอิบนุหะญัรฺ เล่มที่ 9 หน้า 171) ...
แม้จะฟัตวาว่าอนุญาตให้มีกา
ยิ่งไปกว่านั้นท่านอิบนุ อับบาส ร.ฎ. ยังกล่าวว่า พื้นฐานนิกาห์มุตอะฮ์คือสิ่
จะอย่างไรก็ตาม คำฟัตวาดังกล่าวนี้ของท่านอ
ก. ท่านมุหัมมัด บินอัล-หะนะฟียะฮ์(เป็นบุตร
أَنَّ عَلِيًا رَضِىَ اللهُ عَنْهُ سَمِعَ ابْنَ عَبَّاسٍ يُلَيِّنُ فِىْ مُتْعَةِ النِّسَاءِ، فَقَالَ : مَهْلاً يَا ابْنَ عَبَّاسٍ!
فَإِنَّ رَسُوْلَ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ نَهَى عَنِ الْمُتْعَةِ وَعَنْ لُحُوْمِ الْحُمُرِ اْلأَهْلِيَّةِ زَمَنَ خَيْبَرَ
“ท่านอะลีย์ได้ยินท่านอิบนุ
(บันทึกโดยท่านบุคอรีย์ หะดีษที่ 5115 และท่านมุสลิม หะดีษที่ 31/1407) ...
สำนวนในตอนต้นเป็นสำนวนของท
หะดีษบทนี้ นักวิชาการชีอะฮ์ 2 ท่านคือเช็คอัฏ-ฏูศีย์ และเช็คหัรฺรุ้ลอามิลีย์ได้
ข. ท่านญุวัยรียะฮ์ได้รายงานจา
أَنَّهُ سَمِعَ عَلَّى بْنَ أَبِىْ طَالِبٍ يَقُوْلُ ِلابْنِ عَبَّاسٍ : إِنَّكَ رَجُلٌ تَائِهٌ! أَنَّ رَسُوْلَ اللهِ
صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ نَهَانَا عَنْ مُتْعَةِ النِّسَاءِ
“ท่านมุหัมมัดได้ยินท่านอะล
(บันทึกโดยท่านมุสลิม หะดีษที่ 29/
สำนวนข้างต้นนี้เป็นสำนวนจา
การคัดค้านของท่านอะลีย์ต่อ
ที่สำคัญ คำกล่าวของท่านอะลีย์ดังข้า
ค. ท่านซาลิม บุตรชายของท่านอับดุลลอฮ์ อิบนุอุมัรฺ ร.ฎ. รายงานมาว่า ...
قِيْلَ لَهُ : إِنَّ ابْنَ عَبَّاسٍ يَأْمُرُ بِنِكَاحِ الْمُتْعَةِ، فَقَالَ ابْنُ عُمَرَ : سُبْحَانَ اللهِ! مَا أَظُنُّ
ابْنَ عَبَّاسٍ يَفْعَلُ هَذَا، قَالُوْا : بَلَى، إِنَّهُ يَأْمُرُ بِهِ، قَالَ : وَهَلْ كَانَ ابْنُ عَبَّاسٍ إِلاَّ غُلاَمًا
صَغِيْرًا إِذْ كَانَ رَسُوْلُ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ، ثُمَّ قَالَ ابْنُ عُمَرَ
نَهَانَا عَنْهَا رَسُوْلُ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ وَمَا كُنَّا مُسَافِحِيْنَ ...
“มีผู้กล่าวแก่ท่านอิบนุอุม
“ท่านรอซู้ลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
(บันทึกโดย ท่านอัฏ-ฏ็อบรอนีย์ในหนังสื
การคัดค้านของท่านอะลีย์และ
5.3 ท่านญาบิรฺกล่าวว่าท่านอุมั
พวกชีอะฮ์ได้กล่าวโจมตีท่าน
ต่อมาท่านอุมัรฺ อิบนุ้ลค็อฏฏอบ ร.ฎ.ก็ได้ห้ามจากมุตอะฮ์หัจ
หลักฐานดังกล่าวคือ ...
ก. ท่านอะฏออ์กล่าวว่า ...
قَدِمَ جَابِرُ بْنُ عَبْدِاللهِ مُعْتَمِرًا، فَجِئْنَاهُ فِىْ مَنْزِلِهِ، فَسَأَلَهُ الْقَوْمُ عَنْ أَشْيَاءَ، ثُمَّ ذَكَرُوْا
الْمُتْعَةَ، فَقَالَ : نَعَمْ، إِسْتَمْتَعْنَا عَلَى عَهْدِ رَسُوْلِ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ وَأَبِىْ بَكْرٍ
وَعُمَرَ ...
“ท่านญาบิรฺ บินอับดุลลอฮ์ได้มุ่งหน้ามา
(บันทึกโดยท่านมุสลิม หะดีษที่ 15/1405) ...
ข. ท่านอบูนัฎเราะฮ์ กล่าวว่า ...
كُنْتُ عِنْدَ جَابِرِ بْنِ عَبْدِاللهِ، فَأَتَاهُ آتٍ فَقَالَ : إِبْنُ عَبَّاسٍ وَابْنُ الزُّبَيْرِ إِخْتَلَفَا فِى
الْمُتْعَتَيْنِ، فَقَالَ جَابِرٌ : فَعَلْنَاهُمَا مَعَ رَسُوْلِ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ ثُمَّ نَهَانَا عَنْهُمَا
عُمَرُ، فَلَمْ نَعُدْ لَهُمَا ...
“ฉันอยู่กับท่านญาบิร บินอับดุลลอฮ์ ร.ฎ. มีคนๆหนึ่งมาหาท่านแล้วกล่า
(บันทึกโดยท่านมุสลิม หะดีษที่ 17/1405 และท่านอัล-บัยฮะกีย์ เล่มที่ 7 หน้า 206) ...
หะดีษทั้งสองบทนี้บ่งชี้ว่า
ความเข้าใจดังกล่าว ถือเป็นสิทธิ์ของท่านญาบิรฺ
แต่ขณะเดียวกัน ก็ไม่จำเป็นว่าความเข้าใจขอ
ตรงกันข้าม ความเข้าใจดังกล่าวนี้ถูกต้
อนึ่ง ในการห้ามจากนิกาห์มุตอะฮ์ก
แต่ข้อเท็จจริงก็คือ ผู้ห้ามที่แท้จริงในเรื่องน
ส่วนท่านอุมัรฺ อิบนุ้ลค็อฏฏอบ ร.ฎ. เป็นเพียงผู้นำคำห้ามของท่า
ท่านอบูบักรฺ บินหัฟศ์ ได้รายงานมาท่านอับดุลลอฮ์ อิบนุอุมัรฺ ร.ฎ. ว่า ...
لَمَّا وَلِىَ عُمَرُ بْنُ الْخَطَّابِ خَطَبَ النَّاسِ فَقَالَ : إِنَّ رَسُوْلَ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ
أَذِنَ لَنَا فِى الْمُتْعَةِ ثَلاَثًا، ثُمَّ حَرَّمَهَا، وَاللهِ! لاَ أَعْلَمُ أَحَدًا يَتَمَتَّعُ وَهُوَ مُحْصَنٌ إِلاَّ رَجَمْتُهُ
بِالْحِجَارَةِ، إِلاَّ أَنْ يَأْتِيَنِىْ بِأَرْبَعَةٍ يَشْهَدُوْنَ أَنَّ رَسُوْلَ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ أَحَلَّهَا
بَعْدَ إِذْ حَرَّمَهَا
“เมื่อท่านอุมัรฺ อิบนุ้ลค็อฏฏอบก้าวขึ้นเป็น
(บันทึกโดย ท่านอิบนุมาญะฮ์ หะดีษที่ 1963 ด้วยสายรายงานที่หะซัน(สวยง
หะดีษนี้ยังมี “มุตาบะอะฮ์” คือการรายงานของท่านซาลิม บุตรชายของท่านอิบนุอุมัรฺเ
(บันทึกโดยท่านอัล-บัยฮะกีย
หะดีษข้างต้นนี้ - ตามหลักวิชาการ - จึงเป็นหะดีษเศาะเหี๊ยะฮ์หร
จึงเป็นเรื่องน่ารังเกียจเป
ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังสร้าง “หลักฐานเท็จ” เพื่อประณามท่านอุมัรฺในเรื
لَوْلاَ مَا سَبَقَنِىْ بِهِ ابْنُ الْخَطَّابِ يَعْنِىْ عُمَرَ مَا زَنَى إِلاَّ شَقِىٌّ
“ถ้าไม่เพราะบุตรของค็อฏฏอบ
(บันทึกโดยอัล-บะห์รอนีย์ใน
มันจะกินกับปัญญาได้อย่างไร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น