โดย อ.ปราโมทย์ ศรีอุทัย
ท่านมุสลิม ได้บันทึกหะดีษบทนี้ไว้เช่น
หะดีษบทนี้ ท่านอะลีย์รายงานเจนที่สุดว
หะดีษที่รายงานมาจากท่านญะอ
“สำหรับเรา ยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่า ท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ (ศ) ห้ามในสิ่งนั้น และบรรดาอิมามจากเชื้อสายบร
แน่นอน หลักฐานเหล่านี้แสดงว่า ท่านอะลีย์ อิหม่ามท่านที่หนึ่งและท่าน
คือ ..รู้ดีว่า เรื่องนิกาห์มุตอะฮ์เป็นเรื
แต่ที่ยังงมโข่งอยู่ ก็เห็นจะเป็นเช็คอัต-ตีญานี
สรุปแล้ว การนิกาห์มุตอะฮ์จึงเป็นสิ่
เพราะฉะนั้น ที่นักวิชาการซุนนีย์บางท่า
วัลลอฮุ อะอฺลัม ...
3.2 ความแตกต่างในรุก่นและเงื่อ
ความแตกต่างในรุก่นนิกาห์
รูปแบบการนิกาห์ถาวรดังที่ม
แต่สำหรับชีอะฮ์แล้ว การนิกาห์มุตอะฮ์ของพวกเขาอ
เพียงแต่ผู้หญิงผู้ชายตกลงน
ท่านอิหม่ามญะอฺฟัรฺ อัศ-ศอดิกกล่าวว่า ...
لا َبَأْسَ بِتَزْوِيْجِ الْبِكْرِ إِذَا رَضِيَتْ، بِغَيْرِ إِذْنِ أَبَوَيْهَا
“ไม่มีปัญหาที่จะนิกาห์(มุต
(จากหนังสือ “ตะฮ์ซีบุลอะห์กาม” ของเช็คอัฏ-ฏูศีย์ เล่มที่ 7 หน้า 254) ...
เช็คนัจญมุดดีน อัล-หุลีย์นักวิชาการชีอะฮ์
لِلْبَالِغَةِ الرَّاشِدَةِ أَنْ تَتَمَتَّعَ بِنَفْسِهَا، وَلَيْسِ لِوَلِيِّهَا إِعْتِرَاضٌ بِكْرًاكَانَتْ أَوْ ثَيِّبًا
“เป็นสิทธิของสตรีที่บรรลุศ
(จากหนังสือ “ชะรออิอุ้ลอิสลาม” ของเช็คนัจญมุดดีน เล่มที่ 2 หน้า 186 พิมพ์ที่เตหะรานเมื่อปีฮ.ศ.
คำว่า “นิกาห์มุตอะฮ์ให้ตัวเอง” แสดงว่า เป็นการตกลงนิกาห์กัน 2 คนระหว่างผู้หญิงกับผู้ชาย โดยไม่จำเป็นให้วะลีย์ทำการ
นอกจากนั้น การนิกาห์มุตอะฮ์ก็ไม่จำเป็
ท่านกุลัยนีย์ได้อ้างรายงาน
أَوَلَيْسَ عَامَّةُ مَا تَتَزَوَّجُ فَتَيَاتُنَا وَنَحْنُ نَتَعَرَّقُ الطَّعَامَ عَلَى الْخُوَانِ وَنَقُوْلُ : يَا فُلاَنُ!
زَوَّجَ فُلاَنٌ فُلاَنَةً ؟ فَيَقُوْلُ : نَعَمْ …
“โดยทั่วไปแล้ว เด็กสาวๆของพวกเราจะทำการนิ
(จากหนังสือ “ฟุรูอฺ อัล-กาฟีย์” ของกุลัยนีย์ เล่มที่ 2 หน้า 249) ...
แสดงว่า ทั้งคู่แอบนิกาห์กันโดยไม่ม
ความแตกต่างในเงื่อนไขนิกาห
ในระหว่างนิกาห์ถาวรของซุนน
ก. ในการนิกาห์ถาวรของซุนนีย์ม
แต่ชีอะฮ์จะอนุญาตให้มุสลิม
นักวิชาการชีอะฮ์อ้างรายงาน
لاَ بَأْسَ بِالرَّجُلِ أَن يَّتَمَتَّعَ بِالْمَجُوْسِيَّةِ
“ไม่มีปัญหาสำหรับผู้ชาย(มุ
(จากหนังสือ “ตะฮ์ซีบุลหะห์กาม” เล่มที่ 7 หน้า 256 และหนังสือ “อัล-อิสติบศอรฺ” เล่มที่ 3 หน้า 144 ทั้งสองเล่มเป็นหนังสือของเ
หรือจะนิกาห์มุตอะฮ์กับผู้ห
(จากหนังสือ “ตะฮ์ซีบุลอะห์กาม” เล่มที่ 7 หน้า 253) ...
ยิ่งไปกว่านั้น จะนิกาห์มุตอะฮ์กับสตรีที่เ
(สรุปจากหนังสือ “ตะห์รีรุ้ลวะซีละฮ์” ของโคมัยนีย์ หน้า 292 ฉบับพิมพ์ที่เมืองกุม ประเทศอิหร่าน) ...
เข้าลักษณะที่ว่าหลับนอนกัน
ข. ในการนิกาห์ถาวรของซุนนีย์ ผู้ชายจะต้องรู้แน่นอนชัดเจ
แต่ในนิกาห์มุตอะฮ์ของชีอะฮ
เพียงแต่สตรีใดบอกว่าตัวเอง
เช็คอัฏ-ฏูศีย์ได้อ้างรายงา
إِنِّىْ تَزَوَّجْتُ امْرَأَةً مُتْعَةً فَوَقَعَ فِىْ نَفْسِىْ أَنَّ لَهَا زَوْجًا، فَفَتَّشْتُ عَنْ ذَلِكَ فَوَجَدْتُ لَهَا زَوْجًا، قَالَ – أَىْ جَعْفَرٌ – وَلِمَ فَتَّشْتَ ؟
“ฉันได้นิกาห์มุตอะฮ์กับสตร
(จากหนังสือ “ตะห์ซีบุลอะห์กาม” ของเช็คอัฏ-ฏูศีย์ เล่มที่ 7 หน้า 253)
นอกจากนี้ กุลัยนีย์ก็ได้อ้างรายงานจา
قُلْتُ ِلأَبِىْ عَبْدِاللهِ : إِنِّىْ أَكُوْنُ فِىْ بَعْضِ الطُّرُقَاتِ، فَأَرَى الْمَرْأَةَ الْحَسْنَاءَ وَلاَ آمَنُ
أَنْ تَكُوْنَ ذَاتَ بَعْلٍ أَوْ مِنَ الْعَوَاهِرِ، قَالَ : لَيْسَ هَذَا عَلَيْكَ! إِنَّمَا عَلَيْكَ أَنْ تُصَدِّقَهَا
فِىْ نَفْسِهَا
“ฉันได้กล่าวแก่ท่านอบีย์อั
(จากหนังสือ “ฟุรูอฺ อัล-กาฟีย์” ของกุลัยนีย์ เล่มที่ 5 หน้า 462) ...
หมายความว่าถ้านางบอกว่าไม่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น