อารัมภบทของอาจารย์ปราโมทย์

พี่น้องที่เคารพครับ .. ขอเรียนว่า ส่วนใหญ่ของปัญหาที่ถูกถามมาเป็นปัญหาขัดแย้งหรือปัญหาคิลาฟียะฮ์ เพราะฉะนั้น ในการตอบปัญหาดังกล่าว หากปัญหาใดไม่สำคัญมากนัก ผมก็จะตอบแบบสรุปตามทัศนะที่มีน้ำหนักด้านหลักฐานมากที่สุดสำหรับผมโดยไม่ได้นำมุมมองด้านตรงข้ามมาด้วย แต่หากปัญหาใดจำเป็นต้องมีการชี้แจง ผมก็จะนำหลักฐาน(และการวิเคราะห์)รายละเอียดทั้งสองด้าน ประกอบในคำตอบด้วย และขอเรียนว่า

(1). คำตอบของผมแทบทั้งหมดไม่ใช่เป็นการอธิบายหะดีษหรืออัล-กุรฺอานเอาเองอย่างที่บางคนเข้าใจ แต่จะมีที่มาจากอิหม่ามทั้ง 4 ท่านที่โลกอิสลามยอมรับและนักวิชาการระดับโลกท่านอื่นๆด้วยทั้งสิ้น เพียงแต่บางครั้งผมมิได้อ้างนามพวกท่านในการตอบก็เพื่อประหยัดเวลาในการเขียนเท่านั้น

(2). คำตอบของผมในปัญหาใด ไม่ถือว่าเป็น "ข้อชี้ขาด" ความขัดแย้งในปัญหานั้น แต่เป็นการตอบตามการมองหลักฐานว่ามีน้ำหนักที่สุดในมุมมองของผม ซึ่งมุมมองของผมอาจจะผิดพลาดก็ได้ พระองค์อัลลอฮ์ ซ.บ. เท่านั้นที่ทรงรู้ดียิ่งในเรื่องนี้ ...

อ.ปราโมทย์ (มะหมูด) ศรีอุทัย


ติดต่ออาจารย์ปราโมทย์โดยตรงได้ที่

1. 1/22 หมู่บ้านสุขสมบูรณ์ ม. 5 ต. นาเคียน อ. เมือง จ. นคร ศรีธรรมราช รหัส 80000

2. เบอร์โทรศัพท์ 086-6859660

3. Facebook

4. เว็บไซต์

5.อีเมล
pramote.sriutai2559@gmail.com

วันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ท่านอุมัรฺ อิบนุ้ลค็อฏฏอบ ร.ฎ. สั่งให้นมาซตะรอเวี๊ยะห์ 20 ร็อกอะฮ์จริงหรือ ?


ท่านอุมัรฺ อิบนุ้ลค็อฏฏอบ ร.ฎ. สั่งให้นมาซตะรอเวี๊ยะห์ 20 ร็อกอะฮ์จริงหรือ ? และ/หรือประชาชนในสมัยของท่าน ทำนมาซตะรอเวี๊ยะห์ 20 ร็อกอะฮ์จริงหรือ ?

โดย อ. ปราโมทย์ ศรีอุทัย ...

บทวิเคราะห์ต่อไปนี้ มิได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานที่ว่า การนมาซตะรอเวี๊ยะห์ จะทำ 20 ร็อกอะฮ์ได้หรือไม่ได้ แต่อยู่บนพื้นฐานที่ว่า การนมาซตะรอเวี๊ยะห์ 20 ร็อกอะฮ์นั้น เป็นคำสั่งของท่านอุมัรฺ หรือเป็นการกระทำของประชาชนในยุคของท่านอุมัรฺจริงหรือไม่ ? ...
ยังมีความขัดแย้งกันระหว่างนักวิชาการเกี่ยวกับการนมาซตะรอเวี๊ยะห์ในสมัยท่านอุมัรฺ อิบนุ้ลค็อฏฏอบ ร.ฎ. ออกเป็น 2 ประเด็นคือ ...
1. ท่านอุมัรฺสั่งให้ประชาชนนมาซตะรอเวี๊ยะห์ 11 ร็อกอะฮ์ หรือ 20 ร็อกอะฮ์ ? ...
2. ประชาชนในสมัยท่านอุมัรฺ ทำนมาซตะรอเวี๊ยะห์กัน 11 ร็อกอะฮ์ หรือ 20 ร็อกอะฮ์ ? ...
ต่อไปนี้ คือการวิเคราะห์หลักฐานเกี่ยวกับ 2 ประเด็นนี้ ซึ่งผมมิได้ฟันธงหรือยืนยันว่า การวิเคราะห์ของผมที่จะถึงต่อไปนี้คือข้อชี้ขาดหรือถูกต้อง เพราะมันอาจจะผิดพลาดก็ได้ ...
ผมจะทยอยนำการวิเคราะห์ทีละประเด็นลงให้อ่านกัน หากท่านผู้อ่านท่านใดมีความเห็นต่าง ก็มิสิทธิ์ท้วงติงได้ตามหลักวิชาการ แต่ขอร้องว่าอย่าใช้วาจาหยาบคายหรือก้าวร้าวในการโต้แย้งเท่านั้น ...
ประเด็นที่หนึ่ง คำสั่งของท่านอุมัรฺ อิบนุ้ลค็อฏฏอบ ร.ฎ.
(ก) หลักฐาน "คำสั่ง" ท่านอุมัรฺให้ประชาชนนมาซตะรอเวี๊ยะห์ 11 ร็อกอะฮ์
1. ท่านอิหม่ามมาลิก ได้บันทึกในหนังสือ “อัล-มุวัฎเฎาะอ์” เล่มที่ 1 หน้า 105 หรือหะดีษที่ 249, โดยรายงานมาจากท่านมุหัมมัด บินยูซุฟ ซึ่งรายงานมาจากน้าชายของท่านคือท่านอัซ-ซาอิบ บินยะซีด ร.ฎ.ว่า ...
أَمَرَ عُمَرُ بْنُ الْخَطَّابِ أُبَّىَ بْنَ كَعْبٍ وَتَمِيمًا الدَّارِىَّ أَنْ يَقُوْمَا لِلنَّاسِ بِإِحْدَى عَشْرَةَ رَكْعَةً
“ท่านอุมัรฺ อิบนุ้ลค็อฏฏอบได้ใช้ท่านอุบัยย์ บินกะอฺบ์ และท่านตะมีม อัด-ดารีย์ให้ทั้งสองนำนมาซ (ตะรอเวี๊ยะห์)แก่ประชาชน 11 ร็อกอะฮ์” ...
สายรายงานของหะดีษบทนี้ ถูกต้อง ....
2 ท่านอิบนุอบีย์ชัยบะฮ์ได้บันทึกหะดีษ โดยสืบสายรายงานไปถึงท่านยะห์ยา บินสะอีด อัล-ก็อฏฏอน, จากท่านมุหัมมัด บินยูซุฟ, จากท่านอัซ-ซาอิบ บินยะซีดซึ่งกล่าวว่า ...
إِنَّ عُمَرَ جَمَعَ النَّاسَ عَلَى اُبَىٍّ وَتَمِيْمٍ فَكَانَا يُصَلِّيَانِ إِحْدَى عَشْرَةَ رَكْعَةً ..............
"แท้จริง ท่านอุมัรฺ ได้รวมประชาชนให้นมาซตามท่านอุบัยย์ บิน กะอฺบ์และท่านตะมีม แล้วทั้งสองท่านนั้นก็ละหมาด 11 ร็อกอะฮ์ ........................."
สายรายงานนี้ ถูกต้องเช่นเดียวกัน ...
(จากหนังสือ "อัล-มุศ็อนนัฟ" ของท่านอิบนุอบีย์ชัยบะฮ์ เล่มที่ 2 หน้า 248)
3. ท่านอัส-สะยูฎีย์ได้บันทึกในหนังสือ “อัล-มะศอเบี๊ยะห์ ฟี ศ่อลาติตตะรอเวี๊ยะฮ์” (เล่มที่ 1 หน้า 542 จากหนังสือ “อัล- หาวีย์ ลิ้ลฟะตาวีย์”) ว่า ...
وَقَالَ الْجُوْرِىُّ _ مِنْ أَصْحَابِنَا _ عَنْ مَالِكٍ أَنَّهُ قَالَ : اَلَّذِىْ جَمَعَ عَلَيْهِ النَّاسَ عُمَرُ بْنُ الْخَطَّابِ أَحَبُّ إِلَىَّ، وَهِىَ إِحْدَى عَشْرَةَ رَكْعَةً! وَهِىَ صَلاَةُ رَسُوْلِ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ، قِيْلَ لَهُ : إِحْدَى عَشْرَةَ رَكْعَةً مَعَ الْوِتْرِ؟ قَالَ : نَعَمْ، وَثَلاَثَ عَشْرَةَ قَرِيْبٌ، قَالَ : وَلاَ أَدْرِىْ مِنْ أَيْنَ أُحْدِثَ هَذَاالرُّكُوْعُ الْكَثِيْرُ؟ ...
ท่านอัล-ญูรีย์ซึ่งเป็นนักวิชาการมัษฮับของเราท่านหนึ่งกล่าวรายงานมาจากท่านอิหม่ามมาลิกว่า .. “สิ่งซึ่งท่านอุมัรฺ อิบนุ้ลค็อฏฏอบ ร.ฎ.ได้ให้ประชาชนกระทำร่วมกันเป็นสิ่งที่ฉันชอบที่สุด นั่นคือ 11 ร็อกอะฮ์! และนั่นก็เป็นนมาซของท่านรอซู้ลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม มีบางคนกล่าวถามท่านว่า .. 11 ร็อกอะฮ์พร้อมกับวิตรี่ด้วยใช่ไหม? .. ท่านตอบว่า ใช่, และ 13 ร็อกอะฮ์ก็ใกล้เคียงกัน, (ท่านอิหม่ามมาลิกกล่าวต่อไปว่า) .. “ฉันไม่รู้เลยว่า จำนวนร็อกอะฮ์อันมากมายเหล่านี้ มันมาจากไหน ?” ...
คำกล่าวของท่านมาลิกที่ว่า ท่านอุมัรฺ อิบนุ้ลค็อฏฏอบ ร.ฎ. ได้สั่งให้ประชาชนนมาซตะรอเวี๊ยะห์ 11 ร็อกอะฮ์นี้ สอดคล้องและยืนยันการรายงานของท่านจากหะดีษบทที่ 1 และรายงานของท่านยะห์ยา บินสะอัด อัล-ก็อฏฏอน ในหะดีษที่ 2 ที่ผ่านมาว่า ท่านอุมัรฺ อิบนุ้ลค็อฏฏอบ ร.ฎ. ได้สั่งให้ประชาชนนมาซตะรอเวี๊ยะห์ 11 ร็อกอะฮ์จริง ...
หะดีษเรื่องคำสั่งของท่านอุมัรฺ ให้ประชาชนนมาซตะรอเวี๊ยะห์ 11 ร็อกอะฮ์ จึงเป็นหะดีษที่เศาะเหี๊ยะฮ์ ปราศจากข้อบกพร่องใดๆทั้งสิ้น ...
(ข) หลักฐาน "คำสั่ง" ท่านอุมัรฺให้ประชาชนนมาซตะรอเวี๊ยะห์ 20 ร็อกอะฮ์และการวิเคราะห์ ...
1. ท่านอับดุรฺร็อซซาก บินฮุมาม (มีชีวิตระหว่างปี ฮ.ศ. 126-211) ได้รายงานมาจากท่านดาวูด บินก็อยซ์, จากท่านมุหัมมัด บินยูซุฟ, จากท่านอัซ-ซาอิบ บินยะซีด ร.ฎ. ว่า ...
إِنَّ عُمَرَ بْنَ الْخَطَّابِ رَضِىَ اللهُ عَنْهُ جَمَعَ النَّاسَ فِىْ رَمَضَانَ عَلَى أُبَىِّ بْنِ كَعْبٍ وَعَلَى تَمِيْمٍ الدَّارِىِّ عَلَى إِحْدَى وَعِشْرِيْنَ رَكْعَةً ...
“แท้จริงท่านอุมัรฺ อิบนุ้ลค็อฏฏอบ ร.ฎ. ได้รวบรวมประชาชนในเดือนรอมะฎอนให้นมาซตามท่านอุบัยย์ บินกะอฺบ์ และท่านตะมีม อัด-ดารีย์ 21 ร็อกอะฮ์”
(จากหนังสือ “อัล-มุศ็อนนัฟ” ของท่านอับดุรฺร็อซซาก เล่มที่ 4 หน้า 260 หรือหะดีษที่ 7730) ...
วิเคราะห์
รายงานนี้มีลักษณะเป็น “คำสั่ง” ของท่านอุมัรฺ อิบนุ้ลค็อฏฏอบ ร.ฎ. เหมือนกับรายงานบทที่ 1 และบทที่ 2 ที่ผ่านมา และรายงานทั้ง 3 บทนี้ก็เป็นรายงานที่ถูกต้องทั้ง 3 บท .. มีที่มาจากแหล่งเดียวกัน คือจากท่านมุหัมมัด บินยูซุฟ, จากท่านอัซ-ซาอิบ บินยะซีด ร.ฎ. ..
ในด้าน "เนื้อหา" หรือ "ตัวบท" ของทั้ง 3 รายงานนี้ จะเห็นได้ว่าขัดแย้งกัน โดยท่านอับดุรฺร็อซซากเพียงผู้เดียวที่รายงานว่า ท่านอุมัรฺ บินค็อฏฏอบ ร.ฎ. สั่งให้ท่านอุบัยและท่านตะมีม นำนมาซ 21 ร็อกอะฮ์ (ไม่ใช่ 20 ร็อกอะฮ์อย่างที่มีการกล่าวกัน) ...
แต่ท่านอิหม่ามมาลิก บินอนัส และท่านยะห์ยาบินสะอีด อัล-ก็อฏฏอน รายงานมาสอดคล้องกันว่า ท่านอุมัรฺ บินค็อฏฏอบ ร.ฎ. สั่งให้ท่านอุบัยย์ และท่านตะมีม นำนมาซ 11 ร็อกอะฮ์ ...
เพราะฉะนั้น ความขัดแย้งดังกล่าว จะมีทางออกตามหลักวิชาการได้อย่างไร? ..
คำอธิบายในเรื่องนี้ก็คือ ...
แม้โดยพื้นฐาน ท่านอับดุรฺร็อซซากจะเป็นผู้ที่ได้รับความเชื่อถือในระดับสูง แต่ปรากฏว่าท่านตาบอดและ “ความจำเปลี่ยนแปลง” ในช่วงปลายของชีวิต ดังการบันทึกของท่านอิบนุหะญัรฺ อัล-อัสเกาะลานีย์ในหนังสือ “ตักรีบุตตะฮ์ซีบ” เล่มที่ 1 หน้า 505
นี่จึงเป็นจุดอ่อนหนึ่งของท่านอับดุรฺร็อซซาก ...
และข้อความข้างต้นจากคำสั่งของท่านอุมัรฺที่ว่า “21 ร็อกอะฮ์” ก็เป็นท่านอับดุรฺร็อซซากเพียงผู้เดียวที่รายงานมาจากมุหัมมัด บินยูซุฟ, จากท่านอัซ-ซาอิบบินยะซีด ร.ฎ. ซึ่งขัดแย้งกับรายงานของอีก 2 ท่านคือ ท่านอิหม่ามมาลิก บินอนัส (มีชีวิตระหว่างปี ฮ.ศ. 93-179) และท่านยะห์ยา บินสะอีด อัล-ก็อฏฏอน (มีชีวิตระหว่างปี ฮ.ศ.120-198) ที่ได้รับความเชื่อถือในระดับสูงเช่นเดียวกับท่านอับดุรฺร็อซซาก หรืออาจจะมากยิ่งกว่าท่านอับดุรฺร็อซซากด้วยซ้ำไป ...
ตามหลักวิชาการหะดีษ จึงถือว่า รายงาน 21 ร็อกอะฮ์ ของท่านอับดุรฺร็อซซากเป็นรายงานที่ شَاذٌّ หรือผิดเพี้ยน .. และรายงาน 11 ร็อกอะฮ์ ของท่านอิหม่ามมาลิกและท่านยะห์ยา บินสะอีด อัล-ก็อฏฏอน ก็เป็นรานงานที่ مَحْفُوْظٌ หรือรายงานที่ถูกต้อง ...
เพราะฉะนั้น รายงานของท่านอับดุรฺร็อซซากที่ว่า ท่านอุมัรฺ อิบนุ้ลค็อฏฏอบ ร.ฎ. สั่งท่านอุบัยย์และท่านตะมีมให้นำประชาชนนมาซตะรอเวี๊ยะห์ 21 ร็อกอะฮ์ จึงเป็นรายงานที่เฎาะอีฟ ตามหลักวิชาการ ...
2. ท่านอิบนุอบีย์ชัยบะฮ์ได้บันทึกรายงานจากท่านวะเกียะอฺ, จากท่านมาลิก, จากท่านยะห์ยาบินสะอีด อัล-ก็อฏฏอนซึ่งกล่าวว่า ...
إِنَّ عُمَرَ بْنَ الْخَطَّابِ أَمَرَ رَجُلاً يُصَلِّىْ بِهِمْ عِشْرِيْنَ رَكْعَةً
“แท้จริง ท่านอุมัรฺได้ใช้ให้บุคคลผู้หนึ่งนำประชาชนนมาซ 20 ร็อกอะฮ์” ...
(จากหนังสือ “อัล-มุศ็อนนัฟ” ของท่านอิบนุอบีย์ชัยบะฮ์ เล่มที่ 2 หน้า 285)
วิเคราะห์
รายงานนี้ แม้จะอ้างว่าเป็น “คำสั่ง” ของท่านอุมัรฺ แต่ก็เป็นรายงานที่เฎาะอีฟเช่นเดียวกับรายงานของท่านอับดุรฺร็อซซากที่ผ่านมา เนื่องจากการ "ขาดตอน" ระหว่างท่านยะห์ยา บินสะอีด กับท่านอุมัรฺ อิบนุ้ลค็อฏฏอบ ร.ฎ ....
ท่านอุมัรฺ อิบนุ้ลค็อฏฏอบ ร.ฎ. สิ้นชีวิตเมื่อปี ฮ.ศ. 23 และท่านยะห์ยา บินสะอีด อัล-ก็อฏฏอนก็เกิดหลังจากการตายของท่านอุมัรฺเกือบ 100 ปี คือเกิดเมื่อปี ฮ.ศ. 120 และสิ้นชีวิตเมื่อปี ฮ.ศ. 198 รวมอายุได้ 78 ปี ...
นอกจากนั้น รายงานดังข้างต้นนี้ยังขัดแย้งกับรายงานที่ถูกต้องและต่อเนื่องของท่านยะห์ยา บินสะอีด อัล-ก็อฏฏอนเอง ที่กล่าวว่า ท่านอุมัรฺ อิบนุ้ลค็อฏฏอบ ร.ฎ.ได้สั่งให้ท่านอุบัยย์ บินกะอฺบ์ นำประชาชนนมาซตะรอเวี๊ยะห์ 11 ร็อกอะฮ์ ดังที่ผ่านมาแล้ว ...
สรุปแล้ว ที่ถูกต้องในกรณี "คำสั่ง" ของท่านอุมัรฺก็คือ ท่านสั่งให้ท่านอุบัยย์และท่านตะมีม นำประชนนมาซตะรอเวี๊ยะห์ 11 ร็อกอะฮ์ มิใช่ 20 หรือ 21 ร็อกอะฮ์ ...

วัลลอฮุ อะอฺลัม

*** โดยส่วนตัว ผมไม่เคยตำหนิหรือคัดค้านผู้นมาซตะรอเวี๊ยะห์ 20 ร็อกอะฮ์ และไม่เคยกล่าวเลยว่า ทำไม่ได้ เพียงแต่ต้องการวิเคราะห์ให้เห็นว่า การละหมาดตะรอเวี๊ยะห์ 20 ร็อกอะฮ์นั้น เมื่อชัดเจนจากการวิเคราะห์ที่ผ่านมาว่า ไม่ใช่เป็นคำสั่งของท่านอุมัรฺ แล้วที่มีรายงานมาว่า มันเกิดขึ้นในสมัยท่านอุมัรฺรายงานนั้นน่าเชื่อถือเพียงใด ซึ่งจะได้วิเคราะห์ตามหลักวิชาการกันต่อไป ส่วนเรื่องคำพูดของอิหม่ามต่างๆในเรื่องนี้ หากมีเวลา ผมจะเขียนให้อ่านกันครับ อินชาอัลลอฮ์...



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น