โดย อ.ปราโมทย์ ศรีอุทัย
ท่านผู้อ่านที่เคารพครับ ...
ผมเคยเขียนหนังสือเรื่อง “อิหม่ามมะฮ์ดีย์ฯ” ซึ่งตอนหนึ่งมีเนื้อหาว่า กลุ่มชนที่ชอบกุหะดีษเพื่อสนับสนุนแนวความเชื่อของตนเองมากที่สุดก็คือชีอะฮ์ ...
แล้วผมก็กล่าวต่อไปอีกว่า ...
“ผู้ที่กุหะดีษขึ้นมาเพื่อสนับสนุนแนวคิดของตนเองในลักษณะนี้มิใช่จะมีเฉพาะในกลุ่มชีอะฮ์เท่านั้น เพราะแม้กระทั่งผู้ที่คลั่งไคล้ในบางมัษฮับของฝ่ายซุนนะฮ์เอง เช่นผู้ที่สังกัดมัษฮับหะนะฟีย์และมัษฮับชาฟิอีย์ เป็นต้น ก็ยังมีการกุหะดีษขึ้นมาเพื่อสนับสนุนมัษฮับที่ตนเองสังกัดอยู่เช่นเดียวกัน ...
แล้วก็มีบุคคลบางคนพยายามใส่ร้ายผมว่า ผมดูหมิ่นเหยียดหยามผู้คนจำนวนมากที่สังกัดมัษฮับทั้งสอง ด้วยเขาได้โพสข้อความอันเป็นเท็จลงในเฟสว่า “ อ.ปราโมทย์ กล่าวหาว่า บรรดาผู้สังกัดมัสฮับอิหม่ามชาฟิอีย์และอิหม่ามฮานาฟีย์ ก็ชอบกุหะดีษ สนับสนุนทัศนะของตน !!!...”
แล้วหลังจากนั้น ก็มีคนอื่นๆอีกจำนวนมากที่ในสมองของเขาใส่ความอคติเข้าไว้เต็มเปี่ยมแบบเดียวกันกับผู้โพส ก็ออกมาพลอยผสมโรง กล่าวหา, ดูหมิ่นเหยียดหยามผมต่างๆนาๆ ทั้งๆที่ผมก็ไม่เคยรู้จัก หรือไปทำอะไรให้พวกเขาเจ็บช้ำน้ำใจ ...
ท่านผู้อ่านที่รักและมีใจเป็นธรรมทุกท่านครับ ...
โปรดสังเกตคำพูดของผมที่ว่า “ผู้ที่คลั่งไคล้ในบางมัษฮับ” และข้อความตอนท้ายที่ผมเขียนว่า “ก็ยังมีการกุหะดีษขึ้นมา เพื่อสนับสนุนมัษฮับที่ตนเองสังกัดอยู่”
วิญญูชนทุกท่านที่มีสติสมบูรณ์ ไม่อคติจนเกินกว่าเหตุ ย่อมจะเห็นอย่างชัดเจนว่า ถ้อยคำทั้งสองวรรคนั้น ไม่มีเนื้อหาใดเลยที่ผมกล่าวดูหมิ่นเหยียดหยามท่านอิหม่ามทั้งสอง, ดูหมิ่นเหยียดหยามบรรดานักวิชาการที่สังกัดมัษฮับทั้งสอง, หรือแม้กระทั่งชาวบ้านธรรมดาที่สังกัดมัษฮับทั้งสอง, ไม่มีทั้งถ้อยคำและเนื้อหาใดเลยที่จะชวนให้เข้าใจว่า ผมกล่าวหาว่า มีผู้สังกัดมัษฮับทั้งสองจำนวนมากที่ “ชอบ” กุหะดีษ !!!..
เพราะสิ่งที่ผมกล่าวถึงก็คือ มีบางคน (มิใช่จำนวนมากอย่างที่ถูกใส่ร้าย และคงมิใช่เป็นนักวิชาการด้วย) ที่ “คลั่งไคล้” มัษฮับทั้งสองเกินขอบเขต จนถึงขั้นกุหะดีษเท็จขึ้นเพื่อสนับสนุนมัษฮับของตน ดังที่ท่านจะได้อ่านต่อไป ...
การ “คลั่งใคล้” มัษฮับใด มิใช่เป็นลักษณะของ “คนจำนวนมาก” ในแต่ละมัษฮับหรอกครับ ...
แต่เป็นลักษณะของ “บางคน” เท่านั้น ..
เพราะความหมายของคำว่า “คลั่งไคล้มัษฮับ” แตกต่างกันอย่างไรกับคำว่า “ยึดถือมัษฮับ” อันเป็นลักษณะทั่วไปของคนทั้ง 4 มัษฮับ เด็กชั้นประถมก็ยังเข้าใจ ...
เพราะฉะนั้น ผมจึงขอถามว่า ...
คำว่า “บรรดาผู้สังกัด ...” อันมีความหมายถึงคนจำนวนมากก็ดี, คำว่า “ชอบกุหะดีษ” อันแสดงความหมายว่า เป็นผู้ที่ “ชอบปฏิบัติในสิ่งนี้เป็นอย่างมาก” ก็ดี ตามที่คุณเขียนมานั้น ...
เป็นสิ่งที่มีอยู่ในข้อเขียนตอนไหนของผม ...
หรือเป็นสิ่งที่คุณกุเท็จเพื่อใส่ร้ายป้ายสีผมกันแน่ ??? ...
เอาเถิดครับ ไม่ว่าท่าน หรือผู้ที่มีแต่ความอคติเต็มสมองอย่างพวกท่านจะก้าวร้าวผมอย่างไร ผมจะไม่ก้าวร้าวตอบพวกท่านหรอก เพราะผมเป็นลูกที่ถูกพ่อแม่อบรมสั่งสอนมาว่า อย่าไปหยาบคายหรือก้าวร้าวใคร และอย่าอคติต่อใครเป็นอันขาด .. ซึ่งผมก็จะพยายามปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพ่อแม่ในเรื่องนี้ให้มากที่สุดเท่าที่สามารถจะทำได้ ..
สิ่งใดที่พวกท่านใส่ร้ายป้ายสีหรือกุเท็จให้กับผม ผู้ตอบแทนพฤติกรรมของพวกท่านคือพระองค์อัลลอฮ์ ซ.บ. มิใช่ผม ...
เมื่อผมบอกว่า มีผู้ที่คลั่งไคล้ในบางมัษฮับได้กุหะดีษเท็จขึ้นเพื่อสนับสนุนมัษฮับของตน ท่านก็หาว่าสิ่งที่ผมพูดไม่มีจริง ผมมีเจตนาใส่ร้ายผู้สังกัดมัษฮับมากกว่า ...
ก็ขอให้ท่านลองอ่านหะดีษต่อไปนี้ แล้วช่วยตอบคำถามผมด้วยนะครับ ...
ผมเคยเขียนหนังสือเรื่อง “อิหม่ามมะฮ์ดีย์ฯ” ซึ่งตอนหนึ่งมีเนื้อหาว่า กลุ่มชนที่ชอบกุหะดีษเพื่อสนับสนุนแนวความเชื่อของตนเองมากที่สุดก็คือชีอะฮ์ ...
แล้วผมก็กล่าวต่อไปอีกว่า ...
“ผู้ที่กุหะดีษขึ้นมาเพื่อสนับสนุนแนวคิดของตนเองในลักษณะนี้มิใช่จะมีเฉพาะในกลุ่มชีอะฮ์เท่านั้น เพราะแม้กระทั่งผู้ที่คลั่งไคล้ในบางมัษฮับของฝ่ายซุนนะฮ์เอง เช่นผู้ที่สังกัดมัษฮับหะนะฟีย์และมัษฮับชาฟิอีย์ เป็นต้น ก็ยังมีการกุหะดีษขึ้นมาเพื่อสนับสนุนมัษฮับที่ตนเองสังกัดอยู่เช่นเดียวกัน ...
แล้วก็มีบุคคลบางคนพยายามใส่ร้ายผมว่า ผมดูหมิ่นเหยียดหยามผู้คนจำนวนมากที่สังกัดมัษฮับทั้งสอง ด้วยเขาได้โพสข้อความอันเป็นเท็จลงในเฟสว่า “ อ.ปราโมทย์ กล่าวหาว่า บรรดาผู้สังกัดมัสฮับอิหม่ามชาฟิอีย์และอิหม่ามฮานาฟีย์ ก็ชอบกุหะดีษ สนับสนุนทัศนะของตน !!!...”
แล้วหลังจากนั้น ก็มีคนอื่นๆอีกจำนวนมากที่ในสมองของเขาใส่ความอคติเข้าไว้เต็มเปี่ยมแบบเดียวกันกับผู้โพส ก็ออกมาพลอยผสมโรง กล่าวหา, ดูหมิ่นเหยียดหยามผมต่างๆนาๆ ทั้งๆที่ผมก็ไม่เคยรู้จัก หรือไปทำอะไรให้พวกเขาเจ็บช้ำน้ำใจ ...
ท่านผู้อ่านที่รักและมีใจเป็นธรรมทุกท่านครับ ...
โปรดสังเกตคำพูดของผมที่ว่า “ผู้ที่คลั่งไคล้ในบางมัษฮับ” และข้อความตอนท้ายที่ผมเขียนว่า “ก็ยังมีการกุหะดีษขึ้นมา เพื่อสนับสนุนมัษฮับที่ตนเองสังกัดอยู่”
วิญญูชนทุกท่านที่มีสติสมบูรณ์ ไม่อคติจนเกินกว่าเหตุ ย่อมจะเห็นอย่างชัดเจนว่า ถ้อยคำทั้งสองวรรคนั้น ไม่มีเนื้อหาใดเลยที่ผมกล่าวดูหมิ่นเหยียดหยามท่านอิหม่ามทั้งสอง, ดูหมิ่นเหยียดหยามบรรดานักวิชาการที่สังกัดมัษฮับทั้งสอง, หรือแม้กระทั่งชาวบ้านธรรมดาที่สังกัดมัษฮับทั้งสอง, ไม่มีทั้งถ้อยคำและเนื้อหาใดเลยที่จะชวนให้เข้าใจว่า ผมกล่าวหาว่า มีผู้สังกัดมัษฮับทั้งสองจำนวนมากที่ “ชอบ” กุหะดีษ !!!..
เพราะสิ่งที่ผมกล่าวถึงก็คือ มีบางคน (มิใช่จำนวนมากอย่างที่ถูกใส่ร้าย และคงมิใช่เป็นนักวิชาการด้วย) ที่ “คลั่งไคล้” มัษฮับทั้งสองเกินขอบเขต จนถึงขั้นกุหะดีษเท็จขึ้นเพื่อสนับสนุนมัษฮับของตน ดังที่ท่านจะได้อ่านต่อไป ...
การ “คลั่งใคล้” มัษฮับใด มิใช่เป็นลักษณะของ “คนจำนวนมาก” ในแต่ละมัษฮับหรอกครับ ...
แต่เป็นลักษณะของ “บางคน” เท่านั้น ..
เพราะความหมายของคำว่า “คลั่งไคล้มัษฮับ” แตกต่างกันอย่างไรกับคำว่า “ยึดถือมัษฮับ” อันเป็นลักษณะทั่วไปของคนทั้ง 4 มัษฮับ เด็กชั้นประถมก็ยังเข้าใจ ...
เพราะฉะนั้น ผมจึงขอถามว่า ...
คำว่า “บรรดาผู้สังกัด ...” อันมีความหมายถึงคนจำนวนมากก็ดี, คำว่า “ชอบกุหะดีษ” อันแสดงความหมายว่า เป็นผู้ที่ “ชอบปฏิบัติในสิ่งนี้เป็นอย่างมาก” ก็ดี ตามที่คุณเขียนมานั้น ...
เป็นสิ่งที่มีอยู่ในข้อเขียนตอนไหนของผม ...
หรือเป็นสิ่งที่คุณกุเท็จเพื่อใส่ร้ายป้ายสีผมกันแน่ ??? ...
เอาเถิดครับ ไม่ว่าท่าน หรือผู้ที่มีแต่ความอคติเต็มสมองอย่างพวกท่านจะก้าวร้าวผมอย่างไร ผมจะไม่ก้าวร้าวตอบพวกท่านหรอก เพราะผมเป็นลูกที่ถูกพ่อแม่อบรมสั่งสอนมาว่า อย่าไปหยาบคายหรือก้าวร้าวใคร และอย่าอคติต่อใครเป็นอันขาด .. ซึ่งผมก็จะพยายามปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพ่อแม่ในเรื่องนี้ให้มากที่สุดเท่าที่สามารถจะทำได้ ..
สิ่งใดที่พวกท่านใส่ร้ายป้ายสีหรือกุเท็จให้กับผม ผู้ตอบแทนพฤติกรรมของพวกท่านคือพระองค์อัลลอฮ์ ซ.บ. มิใช่ผม ...
เมื่อผมบอกว่า มีผู้ที่คลั่งไคล้ในบางมัษฮับได้กุหะดีษเท็จขึ้นเพื่อสนับสนุนมัษฮับของตน ท่านก็หาว่าสิ่งที่ผมพูดไม่มีจริง ผมมีเจตนาใส่ร้ายผู้สังกัดมัษฮับมากกว่า ...
ก็ขอให้ท่านลองอ่านหะดีษต่อไปนี้ แล้วช่วยตอบคำถามผมด้วยนะครับ ...
ท่านอิบนุ้ลญูซีย์ ได้บันทึกในหนังสือ “อัล-เมาฎูอาต” เล่มที่ 1 หน้า 457 โดยรายงานมาจากมะอฺมูน บินอะห์มัด อัส-สะละมีย์, ซึ่งรายงานมาจากอะห์มัด บินอับดุลลอฮ์ อัล-ญุวัยบารีย์, ซึ่งรายงานมาจากอับดุลลอฮ์ บินมะอฺดาน อัล-อัซดีญ์, ซึ่งรายงานมาจากท่านอนัส บินมาลิก ร.ฎ. ว่า ท่านรอซู้ลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัมกล่าวว่า ...
يَكًوْنُ فِىْ اُمَّتِىْ رَجُلٌ يُقَالُ لَهُ مُحَمَّدُ بْنُ إِدْرِيْسَ أَضَرُّ عَلَى اُمَّتِىْ مِنْ إِبْلِيْسَ،وَيَكُوْنُ فِىْ اُمَّتِىْ رَجُلٌ يُقَالُ لَهُ أَبُوْ خَنِيْفَةَ، هُوَ سِرَاجُ اُمَّتِىْ ...
“ในประชาชาติของฉัน จะมีชายผู้หนึ่ง ถูกเรียกว่า มุหัมมัด บิน อิดรีส (หมายถึงท่านอิหม่ามชาฟิอีย์ ขออัลลอฮ์โปรดเมตตาต่อ
ท่านด้วย) ซึ่งเขาจะเป็นภัยต่อประชาชาติของฉันยิ่งกว่าอิบลีส ...
และในประชาชาติของฉัน จะมีชายผู้หนึ่ง ถูกเรียกว่า อบูหะนีฟะฮ์ (หมายถึงท่านอิหม่ามอบูหะนีฟะฮ์หรือท่านหะนะฟีย์ ขออัลลอฮ์โปรดเมตตาต่อท่านด้วย) ซึ่งเขาจะเป็นดวงประทีปให้แก่ประชาชาติของฉัน” ...
หะดีษบทนี้ คือหะดีษที่ผมถือว่า ผู้คลั่งไคล้มัษฮับหะนะฟีย์ “บางคน” ได้กุขึ้นมาเพื่อยกย่องและสนับสนุนท่านอิหม่ามอบูหะนีฟะฮ์ (แต่ขณะเดียวกัน ยังดูหมิ่นเหยียดหยามท่านอิหม่ามชาฟิอีย์อย่างรุนแรงอีกด้วยอย่างที่เห็น) ...
เมื่อผมบอกว่า ผู้คลั่งไคล้มัษฮับหะนะฟีย์บางคนได้กุหะดีษขึ้นมา (ซึ่งก็คือหะดีษบทนี้แหละ) เพื่อสนับสนุนมัษฮับของตน พวกท่านก็คัดค้านผม และกล่าวหาผมว่า หะดีษที่ว่าไม่มีจริงบ้างละ, ผมใส่ร้ายผู้สังกัดมัษฮับจำนวนมากบ้างละ ...
ดังนั้น เมื่อผมนำหะดีษที่ท่านเรียกร้องมาแสดงให้เห็นกันชัดๆอย่างนี้แล้ว ก็อยากจะขอถามท่านว่า ...
ตกลง หะดีษบทนี้ เป็นหะดีษที่ถูกต้องในทัศนะของพวกท่านใช่ไหมครับ ??? ...
ถ้าใช่ ก็เป็นหน้าที่ของพวกท่านที่ควรจะเผยแพร่หะดีษที่ถูกต้อง (ตามทัศนะของพวกท่าน แต่เป็นหะดีษเก๊ในทัศนะของผม) บทนี้ต่อไป, ให้บรรดามุสลิมได้รับรู้กันไปทั่วๆว่า ..
เมื่อผมบอกว่า ผู้คลั่งไคล้มัษฮับหะนะฟีย์บางคนได้กุหะดีษขึ้นมา (ซึ่งก็คือหะดีษบทนี้แหละ) เพื่อสนับสนุนมัษฮับของตน พวกท่านก็คัดค้านผม และกล่าวหาผมว่า หะดีษที่ว่าไม่มีจริงบ้างละ, ผมใส่ร้ายผู้สังกัดมัษฮับจำนวนมากบ้างละ ...
ดังนั้น เมื่อผมนำหะดีษที่ท่านเรียกร้องมาแสดงให้เห็นกันชัดๆอย่างนี้แล้ว ก็อยากจะขอถามท่านว่า ...
ตกลง หะดีษบทนี้ เป็นหะดีษที่ถูกต้องในทัศนะของพวกท่านใช่ไหมครับ ??? ...
ถ้าใช่ ก็เป็นหน้าที่ของพวกท่านที่ควรจะเผยแพร่หะดีษที่ถูกต้อง (ตามทัศนะของพวกท่าน แต่เป็นหะดีษเก๊ในทัศนะของผม) บทนี้ต่อไป, ให้บรรดามุสลิมได้รับรู้กันไปทั่วๆว่า ..
***ท่านรอซู้ลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า ..
“ในประชาชาติของฉัน จะมีชายผู้หนึ่ง ถูกเรียกว่า มุหัมมัด บิน อิดรีส (หมายถึงท่านอิหม่ามชาฟิอีย์ ขออัลลอฮ์โปรดเมตตาต่อท่านด้วย) ซึ่งเขาจะเป็นภัยต่อประชาชาติของฉันยิ่งกว่าอิบลีส ...
และในประชาชาติของฉัน จะมีชายผู้หนึ่ง ถูกเรียกว่า อบูหะนีฟะฮ์ (หมายถึงท่านอิหม่ามอบูหะนีฟะฮ์หรือท่านหะนะฟีย์ ขออัลลอฮ์โปรดเมตตาต่อท่านด้วย) ซึ่งเขาจะเป็นดวงประทีปให้แก่ประชาชาติของฉัน” ...
“ในประชาชาติของฉัน จะมีชายผู้หนึ่ง ถูกเรียกว่า มุหัมมัด บิน อิดรีส (หมายถึงท่านอิหม่ามชาฟิอีย์ ขออัลลอฮ์โปรดเมตตาต่อท่านด้วย) ซึ่งเขาจะเป็นภัยต่อประชาชาติของฉันยิ่งกว่าอิบลีส ...
และในประชาชาติของฉัน จะมีชายผู้หนึ่ง ถูกเรียกว่า อบูหะนีฟะฮ์ (หมายถึงท่านอิหม่ามอบูหะนีฟะฮ์หรือท่านหะนะฟีย์ ขออัลลอฮ์โปรดเมตตาต่อท่านด้วย) ซึ่งเขาจะเป็นดวงประทีปให้แก่ประชาชาติของฉัน” ...
แล้วเชิญท่านบอกพวกเขาต่อไปอีกว่า หะดีษบทนี้เป็นหะดีษที่ถูกต้องในทัศนะของพวกเราชาวมัษฮับชาฟิอีย์นะ ..
อ.ปราโมทย์ เข้าใจผิดหรือไม่เข้าใจหะดีษเองที่กล่าวว่า หะดีษบทนี้ถูกกุขึ้นมาโดยผู้คลั่งไคล้มัษฮับหะนะฟีย์.. ...
ท่านจะกล้าไหมครับ ??????????? ....
ความจริง เวลาของผมมีค่าเกินกว่าที่จะมาต่อล้อต่อเถียงกับความอคติจนไม่ลืมหูลืมตาของพวกท่านอย่างนี้ ผมจึงขอบอก ณ ที่นี้ว่า ต่อไปผมจะไม่เขียนโต้แย้งพวกท่านเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้เสียเวลาอีก ...
ความจริง ถ้าพวกท่านต้องการรู้ว่า ผมเป็นคนอย่างไร, มีนิสัยก้าวร้าวชอบแจกนรกให้ใครเหมือนที่พวกท่านเข้าใจหรือไม่ ก็ลองไปถามท่าน อ.อารีฟีน แสงวิมานของพวกท่านก็ได้นี่ครับ เพราะท่านรู้จักสนิทสนมกับผมดี และรู้จักผมดีกว่าพวกท่านรู้จักครับ ...
และก็ขอถือโอกาสนี้ เรียนให้ทุกท่านรับทราบด้วยนะครับว่า ในวันที่ 19 – 23 มีนาคมนี้ ผมจะขึ้นไปกรุงเทพ จึงของดตอบคำถามปัญหาต่างๆเป็นการชั่วคราว และหากทางช่องยาตีมทีวีเปิดโอกาสให้ ท่านอาจจะพบกับผมได้ทางยาตีมทีวี รายการ “คุยให้เคลียร์” ในวันเสาร์ ที่ 21 มีนาคม ค่ำลง อินชาอัลลอฮ์ครับ ...
อ. ปราโมทย์ (มะห์มูด) ศรีอุทัย
14 /3 / 58
อ.ปราโมทย์ เข้าใจผิดหรือไม่เข้าใจหะดีษเองที่กล่าวว่า หะดีษบทนี้ถูกกุขึ้นมาโดยผู้คลั่งไคล้มัษฮับหะนะฟีย์.. ...
ท่านจะกล้าไหมครับ ??????????? ....
ความจริง เวลาของผมมีค่าเกินกว่าที่จะมาต่อล้อต่อเถียงกับความอคติจนไม่ลืมหูลืมตาของพวกท่านอย่างนี้ ผมจึงขอบอก ณ ที่นี้ว่า ต่อไปผมจะไม่เขียนโต้แย้งพวกท่านเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้เสียเวลาอีก ...
ความจริง ถ้าพวกท่านต้องการรู้ว่า ผมเป็นคนอย่างไร, มีนิสัยก้าวร้าวชอบแจกนรกให้ใครเหมือนที่พวกท่านเข้าใจหรือไม่ ก็ลองไปถามท่าน อ.อารีฟีน แสงวิมานของพวกท่านก็ได้นี่ครับ เพราะท่านรู้จักสนิทสนมกับผมดี และรู้จักผมดีกว่าพวกท่านรู้จักครับ ...
และก็ขอถือโอกาสนี้ เรียนให้ทุกท่านรับทราบด้วยนะครับว่า ในวันที่ 19 – 23 มีนาคมนี้ ผมจะขึ้นไปกรุงเทพ จึงของดตอบคำถามปัญหาต่างๆเป็นการชั่วคราว และหากทางช่องยาตีมทีวีเปิดโอกาสให้ ท่านอาจจะพบกับผมได้ทางยาตีมทีวี รายการ “คุยให้เคลียร์” ในวันเสาร์ ที่ 21 มีนาคม ค่ำลง อินชาอัลลอฮ์ครับ ...
อ. ปราโมทย์ (มะห์มูด) ศรีอุทัย
14 /3 / 58
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น