โดย อ.ปราโมทย์ ศรีอุทัย
(ตอนที่ 1)
ถาม – ในการนมาซทุกครั้งที่ผ่านมาเมื่อก่อน ในตอนที่อ่านตะชะฮ์ฮุดหรืออ่านตะหี้ยาตผมจะยกนิ้วชี้ขึ้นแล้วกระดิกตั้งแต่ต้นจนจบ แต่เมื่อไม่นานมานี้ ผมไปอ่านเจอหนังสือของนักวิชาการท่านหนึ่งบอกว่า ให้เพียงแต่ชี้นิ้วอย่างเดียวโดยไม่ต้องกระดิก โดยที่ท่านได้ยกหลักฐานมาอ้างอิงทัศนะของท่านมากมาย จนผมเกิดความลังเลว่าที่ผมเคยปฏิบัติมาเมื่อก่อนนั้นจะถูกต้องหรือไม่ ? ...
ขอให้อาจารย์กรุณาชี้แจงและวิเคราะห์หลักฐานเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ชัดเจนด้วย
สะหรีฝีน ยีมะหมัด หาดใหญ่
ขอให้อาจารย์กรุณาชี้แจงและวิเคราะห์หลักฐานเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ชัดเจนด้วย
สะหรีฝีน ยีมะหมัด หาดใหญ่
ตอบ – ปัญหาเรื่องการกระดิกนิ้วชี้ในขณะอ่านตะชะฮ์ฮุด บางคนอาจมองเป็นเรื่องปลีกย่อยที่ไม่น่าจะนำมาพูดหรือเขียนให้เกิดความขัดแย้งในสังคม แต่ในมุมมองของผม ปัญหานี้เป็นปัญหาธรรมดาที่ “ไม่ธรรมดา” ซึ่งจะต้องมีการเคลียร์กัน เพื่อการปฏิบัติอิบาดะฮ์ที่สำคัญที่สุดคือการนมาซให้ถูกต้องตามแบบอย่างหรือซุนนะฮ์ของท่านรอซู้ลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมต่อไป ...
ที่ผมพูดว่า “ไม่ธรรมดา” ก็เพราะเรื่องนี้เป็นอิริยาบถอย่างหนึ่งของการนมาซ ซึ่งท่านศาสดาเคยกำชับว่า صَلُّوا كَمَا رَأَيْتُمُوْنِىْ أُصَلِّىْ .. คือ มุสลิมทุกคนจะต้องทำนมาซให้เหมือนที่ท่านทำ .. ดังการรายงานของท่านมาลิก บินหุวัยริษ ร.ฎ. จากการบันทึกโดยท่านบุคอรีย์และท่านอื่นๆ ...
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อหลายปีที่ผ่านมาแล้วที่จังหวัดสงขลา ก็เคยมีการฟัตวาโดยอิหม่ามท่านหนึ่งว่า การกระดิกนิ้วชี้ในขณะอ่านตะชะฮ์ฮุดทำให้เสียนมาซ เพราะเป็นการเคลื่อนไหวอวัยวะ – คือนิ้วชี้ – เกินกว่าสามครั้งโดยเจตนา ซึ่งลงถึงขั้นมีการตัดสินว่า ทำให้การนมาซเป็นโมฆะ (บะฏ็อล) นี่ ผมว่าไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยแน่นอน ...
ขอเรียนว่าสิ่งที่ผมจะเขียนชี้แจงต่อไปนี้เป็นการเขียนตามมุมมองของผม ซึ่งอาจขัดแย้งกับสิ่งที่ผู้ถามอ้างมาและอาจขัดแย้งกับความเชื่อของนักวิชาการอีกหลายๆท่าน ..
ในเรื่องของมุมมองที่แตกต่างหรือขัดแย้งกันนี้ ถือเป็นสิทธิของนักวิชาการแต่ละท่านจะเสนอแนวคิดตามมุมมองของตนเองได้ และมุมมองของนักวิชาการ – ไม่ว่าในอดีตหรือปัจจุบัน – ในปัญหาต่างๆซึ่งมันอาจแตกต่างไปจากมุมมองของเรา และไม่ว่าเราจะรับได้หรือรับไม่ได้ก็ตาม เราก็ต้องให้เกียรติและเคารพในความบริสุทธิ์ใจของท่าน และอย่าด่วนไปฟันธงว่า มุมมองของท่านผิดพลาด ...
เพราะบางที ท่านอาจจะถูกและเราอาจจะผิดก็ได้ ...
สำหรับหนังสือเล่มที่คุณสะหรีฝีนอ้างถึงนั้น ผมก็เคยได้อ่านมาแล้ว .. เป็นข้อเขียนของนักวิชาการหนุ่มไฟแรงท่านหนึ่งของสังคมมุสลิมยุคปัจจุบัน ซึ่งผมขออนุญาตกล่าวนามของท่านไว้ ณ ที่นี้ .. คืออาจารย์มุรีด ทิมะเสน .. เป็นนักวิชาการรุ่นใหม่ที่ผมยกย่อง, ชื่นชม และติดตามผลงานของท่านตลอดมา ข้อเขียนอันหลากหลายของท่านช่วยกระตุ้นและปลุกกระแสตื่นตัวให้พี่น้องมุสลิมหันให้หันมาให้ความสำคัญกับแบบฉบับที่ถูกต้องของท่านศาสดาเป็นอย่างมาก และผมเองก็ไม่ปฏิเสธว่า เคยได้รับทราบข้อมูลใหม่ๆหลายอย่างจากข้อเขียนของท่าน และผมก็แอบให้กำลังใจท่านเงียบๆตลอดมา .. แม้ว่า บางเรื่องจากข้อเขียนของท่านจะมีมุมมองที่แตกต่างจากผมก็ตาม ...
อย่างเรื่องการกระดิกนิ้วชี้ในขณะอ่านตะชะฮ์ฮุด ตามที่คุณสะหรีฝีนถามมานี้ เป็นต้น ...
มุมมองที่แตกต่างกันในเรื่องศาสนาอันเกิดจากความบริสุทธิ์ใจของแต่ละฝ่าย ไม่ถือว่าเป็นการหักล้างหรือลบหลู่ซึ่งกันและกัน เพราะผมยังชื่นชมในผลงานของท่านอาจารย์มุรีดอยู่เสมอ เท่าๆกับที่ผมมั่นใจว่าท่านอาจารย์มุรีดเองก็ยังคงนับถือผม ในฐานะเป็นผู้อาวุโสกว่าท่าน ...
ต่อไปนี้ คือมุมมอง, คำอธิบาย และการวิเคราะห์ของผมเกี่ยวกับเรื่องนี้ ...
ที่ผมพูดว่า “ไม่ธรรมดา” ก็เพราะเรื่องนี้เป็นอิริยาบถอย่างหนึ่งของการนมาซ ซึ่งท่านศาสดาเคยกำชับว่า صَلُّوا كَمَا رَأَيْتُمُوْنِىْ أُصَلِّىْ .. คือ มุสลิมทุกคนจะต้องทำนมาซให้เหมือนที่ท่านทำ .. ดังการรายงานของท่านมาลิก บินหุวัยริษ ร.ฎ. จากการบันทึกโดยท่านบุคอรีย์และท่านอื่นๆ ...
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อหลายปีที่ผ่านมาแล้วที่จังหวัดสงขลา ก็เคยมีการฟัตวาโดยอิหม่ามท่านหนึ่งว่า การกระดิกนิ้วชี้ในขณะอ่านตะชะฮ์ฮุดทำให้เสียนมาซ เพราะเป็นการเคลื่อนไหวอวัยวะ – คือนิ้วชี้ – เกินกว่าสามครั้งโดยเจตนา ซึ่งลงถึงขั้นมีการตัดสินว่า ทำให้การนมาซเป็นโมฆะ (บะฏ็อล) นี่ ผมว่าไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยแน่นอน ...
ขอเรียนว่าสิ่งที่ผมจะเขียนชี้แจงต่อไปนี้เป็นการเขียนตามมุมมองของผม ซึ่งอาจขัดแย้งกับสิ่งที่ผู้ถามอ้างมาและอาจขัดแย้งกับความเชื่อของนักวิชาการอีกหลายๆท่าน ..
ในเรื่องของมุมมองที่แตกต่างหรือขัดแย้งกันนี้ ถือเป็นสิทธิของนักวิชาการแต่ละท่านจะเสนอแนวคิดตามมุมมองของตนเองได้ และมุมมองของนักวิชาการ – ไม่ว่าในอดีตหรือปัจจุบัน – ในปัญหาต่างๆซึ่งมันอาจแตกต่างไปจากมุมมองของเรา และไม่ว่าเราจะรับได้หรือรับไม่ได้ก็ตาม เราก็ต้องให้เกียรติและเคารพในความบริสุทธิ์ใจของท่าน และอย่าด่วนไปฟันธงว่า มุมมองของท่านผิดพลาด ...
เพราะบางที ท่านอาจจะถูกและเราอาจจะผิดก็ได้ ...
สำหรับหนังสือเล่มที่คุณสะหรีฝีนอ้างถึงนั้น ผมก็เคยได้อ่านมาแล้ว .. เป็นข้อเขียนของนักวิชาการหนุ่มไฟแรงท่านหนึ่งของสังคมมุสลิมยุคปัจจุบัน ซึ่งผมขออนุญาตกล่าวนามของท่านไว้ ณ ที่นี้ .. คืออาจารย์มุรีด ทิมะเสน .. เป็นนักวิชาการรุ่นใหม่ที่ผมยกย่อง, ชื่นชม และติดตามผลงานของท่านตลอดมา ข้อเขียนอันหลากหลายของท่านช่วยกระตุ้นและปลุกกระแสตื่นตัวให้พี่น้องมุสลิมหันให้หันมาให้ความสำคัญกับแบบฉบับที่ถูกต้องของท่านศาสดาเป็นอย่างมาก และผมเองก็ไม่ปฏิเสธว่า เคยได้รับทราบข้อมูลใหม่ๆหลายอย่างจากข้อเขียนของท่าน และผมก็แอบให้กำลังใจท่านเงียบๆตลอดมา .. แม้ว่า บางเรื่องจากข้อเขียนของท่านจะมีมุมมองที่แตกต่างจากผมก็ตาม ...
อย่างเรื่องการกระดิกนิ้วชี้ในขณะอ่านตะชะฮ์ฮุด ตามที่คุณสะหรีฝีนถามมานี้ เป็นต้น ...
มุมมองที่แตกต่างกันในเรื่องศาสนาอันเกิดจากความบริสุทธิ์ใจของแต่ละฝ่าย ไม่ถือว่าเป็นการหักล้างหรือลบหลู่ซึ่งกันและกัน เพราะผมยังชื่นชมในผลงานของท่านอาจารย์มุรีดอยู่เสมอ เท่าๆกับที่ผมมั่นใจว่าท่านอาจารย์มุรีดเองก็ยังคงนับถือผม ในฐานะเป็นผู้อาวุโสกว่าท่าน ...
ต่อไปนี้ คือมุมมอง, คำอธิบาย และการวิเคราะห์ของผมเกี่ยวกับเรื่องนี้ ...
ลักษณะการวางนิ้วชี้ของท่านศาสดาในการอ่านตะชะฮ์ฮุด
หะดีษที่มีรายงานมาเกี่ยวกับเรื่องนี้จากเศาะหาบะฮ์บางท่าน อาทิเช่นท่านอับดุลลอฮ์ อิบนุ อัซ-ซุบัยรฺ และท่านวาอิล บินหุจญริน ร.ฎ. เป็นต้น ได้รายงานลักษณะการวางนิ้วชี้ของท่านศาสดาในขณะอ่านตะชะฮ์ฮุดมา ซึ่งสรุปแล้วจะมีการกล่าวไว้ 3 ลักษณะด้วยกันคือ ...
1. กล่าวเพียงว่า ท่าน يُشِيْرُ بِالسَّبَّابَةِ .. คือ ท่านสื่อสัญญาณด้วยนิ้วชี้ (หรือยกนิ้วชี้ขึ้น) แต่ไม่มีรายงานต่อไปว่า ท่านกระดิกหรือไม่กระดิกมัน ...
2. มีการระบุชัดเจนว่า ولاَ يُحَرِّكُهاَ يُشِيْرُ بِالسَّبَّابَةِ . .. คือ ท่านสื่อสัญญาณด้วยนิ้วชี้(หรือยกนิ้วชี้ขึ้น) แต่ท่านไม่ได้กระดิกมัน ...
3. มีการระบุชัดเจนว่า فَرَأَيْتُهُ يُحَرِّكُهَا رَفَعَ إصْبَعَهُ .. คือ ท่านยกนิ้ว(ชี้)ขึ้น แล้วฉันก็เห็นท่านกระดิกมัน ...
นี่คือ บทสรุปของหลักฐานที่มีรายงานมาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ...
หมายเหตุ
คำว่า يُشِيْرُ بِالسَّبَّابَةِ ไม่จำเป็นต้องแปลว่า “ชี้ด้วยนิ้วชี้” ดังการแปลของท่านอาจารย์มุรีดเสมอไป เพราะการแปลดังกล่าวนอกจากจะเป็นการสื่อความหมายที่แคบจนนำไปสู่ความเข้าใจผิดว่าเป็นการชี้โดยไม่มีการกระดิกแล้ว คำว่า أَشَارَ، يُشِيْرُ ตามหลักภาษาจะหมายถึง “การสื่อสัญญาณ, การทำสัญญาณ (ด้วยสิ่งใดๆ)” ซึ่งเป็นความหมายกว้างๆดังตัวอย่างที่ผมจะชี้แจงให้เห็นในลำดับต่อไป ...
ดังนั้น ในหะดีษข้างต้น ความหมายของคำว่า يُشِيْرُ بِالسَّبَّابَةِ ในแง่ภาษาจึงหมายถึง “การสื่อสัญญาณด้วยนิ้วชี้” หรือ “การยกนิ้วชี้ขึ้น”ซึ่งความหมายนี้จะตรงกับอีกสำนวนหนึ่งของหะดีษบทนี้ที่ว่า رَفَعَ إِصْبَعَهُ (ท่านนบีย์ได้ยกนิ้วชี้ของท่านขึ้น) อันเป็นการรายงานของท่านซาอิดะฮ์ บินกุดามะฮ์ที่จะถึงต่อไป ...
สำนวนที่แตกต่างกันของหะดีษเรื่องเดียวกัน ย่อมอธิบายซึ่งกันและกันเสมอ ...
เมื่อเราพิจารณาดูบทสรุปที่ผมกล่าวมานี้ ก็จะเห็นได้ว่า ที่สอดคล้องกันของรายงานทั้ง 3 ลักษณะข้างต้นก็คือ ท่านนบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมสื่อสัญญาณด้วยนิ้วชี้หรือยกนิ้วชี้ขึ้นในการอ่านตะชะฮ์ฮุด ...
แต่ที่ขัดแย้งกันก็คือ รายงานที่สองบอกว่า ท่านยกนิ้วชี้ขึ้น แต่ไม่ได้กระดิกมัน ...
รายงานที่สามบอกว่า ท่านยกนิ้วชี้ขึ้นแล้วกระดิกมัน ...
ส่วนสำนวนในรายงานที่หนึ่ง (ทั้งหมด) ตามที่ท่านอาจารย์มุรีดนำมาอ้างเป็นหลักฐานเรื่องไม่กระดิกนิ้วชี้นั้น ข้อเท็จจริงก็คือ เป็นรายงานที่เรียกว่า مَسْكُوْتٌ عَنْهُ .. คือ ยังชี้ชัดไม่ได้ว่ามีการกระดิกนิ้วชี้ด้วยหรือไม่ .. หรือถ้าเป็นภาษามวยก็ต้องเรียกว่า เป็นมวยเชิงรอจังหวะ คือไม่บุก แต่ก็ไม่ถอย, ...
หมายความว่า รายงานลักษณะที่หนึ่งนี้จะนำมาอ้างเป็นหลักฐานเรื่องกระดิกนิ้วชี้ก็ไม่ได้, จะอ้างเป็นหลักฐานเรื่องไม่กระดิกนิ้วชี้ก็ไม่ได้เช่นเดียวกัน เพราะทั้งสองอย่างนั้นไม่มีกล่าวไว้ในหะดีษบทนี้เลย ...
เพราะฉะนั้น รายงานที่หนึ่งนี้จึงเป็นหลักฐานได้เพียงอย่างเดียวคือ ท่านนบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ยกนิ้วชี้ขึ้นในการอ่านตะชะฮ์ฮุด ...
ส่วนปัญหาที่ว่าเมื่อท่านยกนิ้วชี้ขึ้นแล้วท่านกระดิกมันหรือไม่ ก็ต้องขึ้นอยู่กับผลการวิเคราะห์รายงานที่สองและรายงานที่สามที่ยังขัดแย้งกันอยู่ว่า รายงานไหนจะถูกต้องกว่ากัน ...
ถ้าผลการวิเคราะห์ออกมาว่า รายงานที่ว่าไม่กระดิกนิ้วชี้เป็นรายงานที่ถูกต้องกว่า ก็ต้องถือว่า ซุนนะฮ์ในการนั่งอ่านตะชะฮ์ฮุด ให้เรายกนิ้วชี้ขึ้นแต่ไม่ต้องกระดิกมัน ...
แต่ถ้าผลการวิเคราะห์ออกมาว่า รายงานเรื่องกระดิกนิ้วถูกต้องกว่า เราก็ต้องยอมรับว่า ซุนนะฮ์ในการนั่งอ่านตะชะฮ์ฮุด ให้เรายกนิ้วชี้ขึ้นแล้วกระดิกมันด้วย ...
ถูกต้องไหมครับที่ผมกล่าวมานี้ ...
หะดีษที่มีรายงานมาเกี่ยวกับเรื่องนี้จากเศาะหาบะฮ์บางท่าน อาทิเช่นท่านอับดุลลอฮ์ อิบนุ อัซ-ซุบัยรฺ และท่านวาอิล บินหุจญริน ร.ฎ. เป็นต้น ได้รายงานลักษณะการวางนิ้วชี้ของท่านศาสดาในขณะอ่านตะชะฮ์ฮุดมา ซึ่งสรุปแล้วจะมีการกล่าวไว้ 3 ลักษณะด้วยกันคือ ...
1. กล่าวเพียงว่า ท่าน يُشِيْرُ بِالسَّبَّابَةِ .. คือ ท่านสื่อสัญญาณด้วยนิ้วชี้ (หรือยกนิ้วชี้ขึ้น) แต่ไม่มีรายงานต่อไปว่า ท่านกระดิกหรือไม่กระดิกมัน ...
2. มีการระบุชัดเจนว่า ولاَ يُحَرِّكُهاَ يُشِيْرُ بِالسَّبَّابَةِ . .. คือ ท่านสื่อสัญญาณด้วยนิ้วชี้(หรือยกนิ้วชี้ขึ้น) แต่ท่านไม่ได้กระดิกมัน ...
3. มีการระบุชัดเจนว่า فَرَأَيْتُهُ يُحَرِّكُهَا رَفَعَ إصْبَعَهُ .. คือ ท่านยกนิ้ว(ชี้)ขึ้น แล้วฉันก็เห็นท่านกระดิกมัน ...
นี่คือ บทสรุปของหลักฐานที่มีรายงานมาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ...
หมายเหตุ
คำว่า يُشِيْرُ بِالسَّبَّابَةِ ไม่จำเป็นต้องแปลว่า “ชี้ด้วยนิ้วชี้” ดังการแปลของท่านอาจารย์มุรีดเสมอไป เพราะการแปลดังกล่าวนอกจากจะเป็นการสื่อความหมายที่แคบจนนำไปสู่ความเข้าใจผิดว่าเป็นการชี้โดยไม่มีการกระดิกแล้ว คำว่า أَشَارَ، يُشِيْرُ ตามหลักภาษาจะหมายถึง “การสื่อสัญญาณ, การทำสัญญาณ (ด้วยสิ่งใดๆ)” ซึ่งเป็นความหมายกว้างๆดังตัวอย่างที่ผมจะชี้แจงให้เห็นในลำดับต่อไป ...
ดังนั้น ในหะดีษข้างต้น ความหมายของคำว่า يُشِيْرُ بِالسَّبَّابَةِ ในแง่ภาษาจึงหมายถึง “การสื่อสัญญาณด้วยนิ้วชี้” หรือ “การยกนิ้วชี้ขึ้น”ซึ่งความหมายนี้จะตรงกับอีกสำนวนหนึ่งของหะดีษบทนี้ที่ว่า رَفَعَ إِصْبَعَهُ (ท่านนบีย์ได้ยกนิ้วชี้ของท่านขึ้น) อันเป็นการรายงานของท่านซาอิดะฮ์ บินกุดามะฮ์ที่จะถึงต่อไป ...
สำนวนที่แตกต่างกันของหะดีษเรื่องเดียวกัน ย่อมอธิบายซึ่งกันและกันเสมอ ...
เมื่อเราพิจารณาดูบทสรุปที่ผมกล่าวมานี้ ก็จะเห็นได้ว่า ที่สอดคล้องกันของรายงานทั้ง 3 ลักษณะข้างต้นก็คือ ท่านนบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมสื่อสัญญาณด้วยนิ้วชี้หรือยกนิ้วชี้ขึ้นในการอ่านตะชะฮ์ฮุด ...
แต่ที่ขัดแย้งกันก็คือ รายงานที่สองบอกว่า ท่านยกนิ้วชี้ขึ้น แต่ไม่ได้กระดิกมัน ...
รายงานที่สามบอกว่า ท่านยกนิ้วชี้ขึ้นแล้วกระดิกมัน ...
ส่วนสำนวนในรายงานที่หนึ่ง (ทั้งหมด) ตามที่ท่านอาจารย์มุรีดนำมาอ้างเป็นหลักฐานเรื่องไม่กระดิกนิ้วชี้นั้น ข้อเท็จจริงก็คือ เป็นรายงานที่เรียกว่า مَسْكُوْتٌ عَنْهُ .. คือ ยังชี้ชัดไม่ได้ว่ามีการกระดิกนิ้วชี้ด้วยหรือไม่ .. หรือถ้าเป็นภาษามวยก็ต้องเรียกว่า เป็นมวยเชิงรอจังหวะ คือไม่บุก แต่ก็ไม่ถอย, ...
หมายความว่า รายงานลักษณะที่หนึ่งนี้จะนำมาอ้างเป็นหลักฐานเรื่องกระดิกนิ้วชี้ก็ไม่ได้, จะอ้างเป็นหลักฐานเรื่องไม่กระดิกนิ้วชี้ก็ไม่ได้เช่นเดียวกัน เพราะทั้งสองอย่างนั้นไม่มีกล่าวไว้ในหะดีษบทนี้เลย ...
เพราะฉะนั้น รายงานที่หนึ่งนี้จึงเป็นหลักฐานได้เพียงอย่างเดียวคือ ท่านนบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ยกนิ้วชี้ขึ้นในการอ่านตะชะฮ์ฮุด ...
ส่วนปัญหาที่ว่าเมื่อท่านยกนิ้วชี้ขึ้นแล้วท่านกระดิกมันหรือไม่ ก็ต้องขึ้นอยู่กับผลการวิเคราะห์รายงานที่สองและรายงานที่สามที่ยังขัดแย้งกันอยู่ว่า รายงานไหนจะถูกต้องกว่ากัน ...
ถ้าผลการวิเคราะห์ออกมาว่า รายงานที่ว่าไม่กระดิกนิ้วชี้เป็นรายงานที่ถูกต้องกว่า ก็ต้องถือว่า ซุนนะฮ์ในการนั่งอ่านตะชะฮ์ฮุด ให้เรายกนิ้วชี้ขึ้นแต่ไม่ต้องกระดิกมัน ...
แต่ถ้าผลการวิเคราะห์ออกมาว่า รายงานเรื่องกระดิกนิ้วถูกต้องกว่า เราก็ต้องยอมรับว่า ซุนนะฮ์ในการนั่งอ่านตะชะฮ์ฮุด ให้เรายกนิ้วชี้ขึ้นแล้วกระดิกมันด้วย ...
ถูกต้องไหมครับที่ผมกล่าวมานี้ ...