โดย อ. ปราโมทย์ ศรีอุทัย
(2). คำกล่าวที่ว่า .. ..."ไม่มีการกระทำใดที่ไม่ใช่อิบาดะห์เว้นแต่เป็นการกระทำที่มะซีย้ะห์เท่านั้น แค่ไม่เชื่อว่าทุกๆการกระทำที่ไม่ได้ถูกห้ามนั้นเป็นอิบาดะห์นั่นหมายถึงอาจตกมุรตัดได้โดยง่ายถ้าคิดผิด" ...
ขอตอบว่า ในมุมมองของผมมองว่า คำกล่าวข้างต้นนี้ไม่น่าจะถูกต้อง เพราะขัดแย้งกับคำกล่าวของนักวิชาการ และขัดแย้งกับข้อเท็จจริงครับ ...
คำอธิบายมีดังนี้ ...
นักวิชาการได้จำแนกพฤติกรรมหรือการกระทำของมนุษย์ออกเป็น 2 ลักษณะ คือ ...
1. อิบาดะฮ์ (عِبَادَةٌ) หมายถึงการกระทำที่มีเป้าหมายเพื่อการเคารพภักดีต่อพระผู้เป็นเจ้า เช่นการละหมาด, การถือศีลอด, การทำหัจญ์, การซิกรุ้ลลอฮ์, การบริจาคทาน และการกระทำความดีต่างๆที่มีเป้าหมายเพื่อพระองค์อัลลอฮ์ ซ.บ. ...
2. อาดะฮ์ (عَادَةٌ) หมายถึงการกระทำของมนุษย์ที่มีเป้าหมายเพื่อการดำรงอยู่ของชีวิต หรือเพื่อความสะดวกสบายของชีวิต มิใช่เพื่อแสดงความจงรักภักดีต่ออัลลอฮ์ เช่นการกิน, การนอน, การสร้างบ้านพักอาศัย, การซื้อขายแลกเปลี่ยน, การจ้าง, การเช่า, การใช้ชีวิตคู่ เป็นต้น ...
จากการจำแนกดังกล่าวนี้ทำให้เป็นที่ชัดเจนว่า นักวิชาการมิได้มองว่า ทุกๆการกระทำของมนุษย์ แม้จะมิใช่เป็นความชั่ว ก็ต้องเป็นอิบาดะฮ์ไปเสียทั้งหมด ยกเว้นในบางกรณีที่อาดะฮ์อาจจะกลายเป็นอิบาดะฮ์ได้ ด้วยการเนียตที่ดีของผู้กระทำ เช่นการกิน, การนอน โดยเจตนาให้ร่างกายมีเรี่ยวแรงเพื่อจะได้ทำการภักดีต่ออัลลอฮ์ เป็นต้น ..
อิบาดะฮ์คืออะไร ?
หนังสือ مُعْجَمُ لُغَةِ الْفُقَهَاءِ ของ ดร. มุหัมมัด เราวาซ หน้า 451 ได้ให้คำนิยามคำว่า "อิบาดะฮ์" เอาไว้ว่า ..
اَلْعِبَادَةُ ..... اَلتَّصَرُّفَاتُ الْمَشْرُوْعَةُ الَّتِىْ تَجْمَعُ كَمَالَ الْمَحَبَّةِ، وَالْخَوْفِ، وَالْخُضُوْعِ لله تَعَالَى
"อิบาดะฮ์ หมายถึงพฤติกรรมต่างๆ(ของมนุษย์) ที่ถูกบัญญัติขึ้น(โดยพระผู้เป็นเจ้า) ซึ่งมันได้ประมวลไว้ทั้งความรักอันสมบูรณ์เพียบพร้อม, ความเกรงกลัว, และความนอบน้อมถ่อมตนต่อพระองค์อัลลอฮ์ ซ.บ." ...
จากคำนิยามข้างต้นนี้พอจะสรุปได้ว่า อิบาดะฮ์ หมายถึงการกระทำใดๆที่แฝงไว้ด้วยความรัก, ความภักดี, ความยำเกรง, และความนอบน้อมถ่อมตนต่อพระองค์อัลลอฮ์ ซ.บ. ..
หรือจะสรุปอีกครั้งก็คือ การกระทำที่จะเรียกว่าเป็นอิบาดะฮ์ ต้องเป็นการกระทำเพื่ออัลลอฮ์, และกระทำเพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดีต่ออัลลฮ์ ..
โดยนัยนี้ การกระทำใดๆที่มิได้มีเป้าหมายเพื่ออัลลอฮ์ และเพื่อแสดงความเคารพภักดีพระองค์ แม้การกระทำนั้นจะไม่ใช่มะอฺศิยะฮ์หรือความชั่ว ก็จะไม่เรียกการกระทำนั้นว่า อิบาดะฮ์ ...
นักวิชาการอธิบายว่า โครงสร้างอิบาดะฮ์เป็นสิ่งที่ถูกบัญญัติ "โดย" พระองค์อัลลอฮ์ ซ.บ. เพียงพระองค์เดียว, และเป็นการกระทำ "เพื่อ" พระองค์อัลลอฮ์ ซ.บ. เพียงพระองค์เดียว ...
ด้วยเหตุนี้พื้นฐานของอิบาดะฮ์จึงเป็นสิ่งถูกระงับ (تَوْقِيْفٌ) .. คือผู้ใดจะมากำหนดรูปแบบอิบาดะฮ์ใดๆขึ้นมาโดยพลการ เพื่อแสดงความเคารพภักดีต่อพระองค์อัลลอฮ์ ซ.บ. ไม่ได้ เว้นแต่การกระทำนั้นๆและรูปแบบอิบาดะฮ์นั้นๆจะต้องถูกกำหนดมาโดยพระองค์อัลลอฮ์ ซ.บ. เท่านั้น ...
ใครก็ตามที่กำหนดรูปแบบอิบาดะฮ์ขึ้นมาจากความคิดความเข้าใจของตนเองเพื่อปฏิบัติ โดยไม่มีที่มาจากพระผู้เป็นเจ้า เขาก็คือผู้ตราบทบัญญัติแข่งกับพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งเป็นเรื่องต้องห้ามที่ใครๆจะกระทำมิได้ ...
(สรุปคำพูดท่านอิหม่ามอะห์มัด อิบนุหัมบัล จากหนังสือ "อัล-หะล้าล วัลหะรอม ฟิล อิสลาม" ของท่าน ดร. ยูซุฟ อัล-ก็อรฺฎอวีย์ หน้า 25) ...
อาดะฮ์ คืออะไร ?
อาดะฮ์ (عَادَةٌ) หรือวิถีชีวิตประจำวันของมนุษย์ คือสิ่งที่ถูกกำหนดขึ้นโดยน้ำมือมนุษย์เองตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์แล้ว ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อการอยู่รอดของชีวิตหรือเพื่อความสะดวกสบายของชีวิต มิได้มีวัตถุประสงค์เพื่อเคารพภักดีต่อพระผู้เป็นเจ้า ...
เมื่ออาดะฮ์หรือการใช้ชีวิตประจำวันมีที่มาจากการกำหนดของมนุษย์, เพื่อผลประโยชน์ของมนุษย์เอง พื้นฐานเดิมของอาดะฮ์ - ทั้งหมด - จึงเป็นที่อนุโลม (اَلْعَفْوُ) แก่มนุษย์ .. ยกเว้นเมื่อมีการห้ามสิ่งใดมาจากพระผู้เป็นเจ้าหรือศาสดาของพระองค์ อาดะฮ์นั้นก็จะกลายเป็นสิ่งต้องห้าม ส่วนอาดะฮ์ใดที่ไม่มีหลักฐานห้าม มันก็จะยังคงสภาพเป็นที่อนุญาตสำหรับมนุษย์ตามพื้นฐานเดิมของมัน ...
(สรุปเนื้อหาจากหนังสือเล่มเดียวกัน, หน้าเดียวกัน) ...
การกิน, การดื่ม, การปลูกสร้างบ้านพักอาศัย, การห่มผ้าเมื่อหนาว, การผิงไฟหรือใช้พัดลมเมื่อร้อน, การแลกเปลี่ยนซื้อขาย, การจ้าง, การเช่า, การกู้ยืมหนี้สิน, การใช้ชีวิตคู่, ฯลฯ เหล่านี้ ตามปกติล้วนเป็นเรื่องของอาดะฮ์ มิใช่เป็นอิบาดะฮ์ .....
มนุษย์กิน, มนุษย์ดื่ม, มนุษย์นอน มิใช่เพื่อเคารพภักดีต่ออัลลอฮ์ แต่เพื่อความอยู่รอดของชีวิต และเพื่อต้องการพักผ่อน ..
มนุษย์สร้างบ้านเรือน มิใช่เพื่อเคารพภักดีต่ออัลลอฮ์ แต่เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัย, หลบแดดหลบฝน ...
มนุษย์ห่มผ้าเมื่อหนาว มิใช่เพื่อเคารพภักดีต่ออัลลอฮ์ แต่เพื่อความอบอุ่นของร่างกาย ...
มนุษย์มีการซื้อขายแลกเปลี่ยน, มีการจ้าง, การเช่า, การกู้หนี้ยืมสิน เป็นต้น มิใช่เพื่อเคารพภักดีต่ออัลลอฮ์ แต่เพื่อให้ได้มาในสิ่งที่ตนเองไม่มี ..
มนุษย์แต่งงาน มิใช่เพื่อเคารพภักดีต่ออัลลอฮ์ แต่เพื่อต้องการความอบอุ่นใจ, เพื่อสนองความต้องการด้านกามารมณ์ และเพื่อการสืบเผ่าพันธ์ ..
ฯลฯ ..
ตัวอย่างของอาดะฮ์ที่กล่าวมานี้ ไม่มีสิ่งใดเป็นมะอฺศิยะฮ์หรือความชั่ว แต่ไม่มีนักวิชาการท่านใดกล่าวว่า มันเป็นอิบาดะฮ์ !...
นี่คือ หลักการของอิสลามเกี่ยวกับเรื่องอิบาดะฮฺ และอาดะฮ์ ...
สรุปแล้ว เรื่องอาดะฮ์หรือการใช้ชีวิตประจำวันตามปกติวิสัยของมนุษย์ แม้จะ มิใช่เป็นมะอฺศิยะฮ์(ความชั่ว)ตามหลักการศาสนา ก็มิใช่เป็นอิบาดะฮ์, และไม่ถือว่าเป็นอิบาดะฮ์ .. ตามทัศนะของนักวิชาการ ...
สรุปแล้ว เรื่องอาดะฮ์หรือการใช้ชีวิตประจำวันตามปกติวิสัยของมนุษย์ แม้จะ มิใช่เป็นมะอฺศิยะฮ์(ความชั่ว)ตามหลักการศาสนา ก็มิใช่เป็นอิบาดะฮ์, และไม่ถือว่าเป็นอิบาดะฮ์ .. ตามทัศนะของนักวิชาการ ...
เพราะฉะนั้น คำพูดข้างต้นที่ว่า .. "ไม่มีการกระทำใดที่ไม่ใช่อิบาดะห์เว้นแต่เป็นการกระทำที่มะซีย้ะห์เท่านั้น" จึงถือว่าเป็นคำพูดที่ไม่ถูกต้อง ...
และคำพูดที่ว่า .. "แค่ไม่เชื่อว่าทุกๆการกระทำที่ไม่ได้ถูกห้ามนั้นเป็นอิบาดะห์ นั่นหมายถึงอาจตกมุรตัดได้โดยง่ายถ้าคิดผิด" .. ก็เป็นคำพูดที่ไม่ถูกต้องเช่นเดียวกัน ..
เพราะผมไม่เคยเจอนักวิชาการท่านใดเลยที่กล่าวอย่างนี้ นอกจากคำพูดของผู้ที่คุณ Mareeyah Si คัดลอกมาถามดังข้างต้นเท่านั้น ...
วัลลอฮุ อะอฺลัม ...
อ. ปราโมทย์ ศรีอุทัย
4/12/2560
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น