โดย อ. ปราโมทย์ ศรีอุทัย
บทที่1.
นักวิชาการที่ห้ามสตรีใช้แหวน, กำไล, และสร้อยทองคำ
มีข้อมูลระบุมาว่า นักวิชาการในอดีตบางท่านมีทัศนะว่า เครื่องประดับที่ทำจากทองคำ เป็นเรื่องต้องห้ามสำหรับสตรี ดังที่จะกล่าวถึงต่อไป แต่ทัศนะเหล่านั้น ก็ไม่สู้จะเป็นที่รับรู้กันแพร่หลายนัก ...
นักวิชาการยุคใหม่ที่เปิดประเด็นเรื่องนี้ขึ้นมา ก็คือ ท่านเช็คมุหัมมัด นาศิรุดดีน อัล-อัลบานีย์ ซึ่งท่านผู้นี้เป็นนักวิชาการหะดีษที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับกันมากที่สุดในยุคปัจจุบัน และเพิ่งจะสิ้นชีวิตไปเมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง ...
ท่านเช็คอัล-อัลบานีย์ ได้เขียนในหนังสือ “อาดาบุส ซะฟาฟ” ชึ้แจงและวิเคราะห์หลักฐานเกี่ยวกับเรื่องนี้ในทุกแง่ทุกมุมตามมุมมองของท่าน แล้วสรุปว่า เครื่องประดับของสตรีตามลักษณะข้างต้น คือ แหวน, กำไล, และสร้อยคอที่เป็นทองคำนั้น มิใช่เป็นที่ต้องห้ามเฉพาะบุรุษเท่านั้น แต่ยังเป็นที่ต้องห้ามสำหรับสตรีด้วยเช่นเดียวกัน ...
ข้อเขียนดังกล่าวนี้ของท่านอัล-อัลบานีย์ ถือเป็นการหักล้างข้อเขียนของท่านอิบนุ หัสมิน (สิ้นชีวิตปี ฮ.ศ. 456) ที่ได้เขียนไว้ในหนังสือ “อัล-มุหั้ลลา” ของท่าน เล่มที่ 10 หน้า 82-86 ซึ่งสรุปว่า เครื่องประดับที่เป็นทองคำนั้น เป็นที่อนุมัติสำหรับสตรีในทุกรูปแบบ, .. และยังเป็นการหักล้างความเชื่อถือเดิมของมุสลิมทั่วๆไป (รวมทั้งตัวผมเองด้วย) ที่เคยเข้าใจในเรื่องนี้เหมือนข้อเขียนของท่านอิบนุ หัสมิน ...
แน่นอน, ข้อเขียนของท่านอัล-อัลบานีย์ในเรื่องนี้ สร้างความสั่นสะเทือนให้กับวงการมุสลิมและมุสลิมะฮ์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะบรรดานักวิชาการ, ซึ่งมีทั้งที่เห็นด้วยและคัดค้านทัศนะดังกล่าวของท่าน ...
ข้อเขียนของผู้ที่คัดค้านทัศนะดังกล่าวของท่านอัล-อัลบานีย์เท่าที่ผมอ่านเจอก็คือหนังสือ “إِبَاحَةُ التَّحَلِّىْ بِالذَّهَبِ الْمُحَلَّقِ لِلنِّسَاءِ” ของท่านเช็คอิสมาอีล อัล-อันศอรีย์,และหนังสือ “اَْلأَلْبَانِىُّ، شُذُوْذُهُ وَأَخْطَاؤُهُ” ของท่านเช็คอัรฺชัด อัส-สะละฟีย์ ซึ่งพิมพ์ผนวกไว้ตอนท้ายหนังสือดังกล่าวของท่านเช็คอิสมาอีล อัล-อันศอรีย์อีกทีหนึ่ง ...
หมายเหตุ ชื่อ “อัรฺชัด อัส-สะละฟีย์” เป็นนามแฝง, .. ชื่อจริงก็คือ เช็คหะบีบุรฺ เราะห์มาน อัล-อะอฺซอมีย์ ดังที่ถูกเปิดโปงในภายหลัง .. ซึ่งการใช้นามแฝงในการเขียนคัดค้านท่านอัล-อัลบานีย์ของท่านเช็คผู้นี้ ทำให้ท่านถูกมองอย่างตำหนิว่า ไม่กล้าสู้ความจริงเท่าที่ควร ...
ส่วนข้อเขียนของผู้ที่สนับสนุนแนวคิดของท่านอัล-อัลบานีย์เท่าที่อ่านเจอ ก็มักจะเป็นนักวิชาการหะดีษที่ศรัทธาในวิชาการและแนวคิดของท่าน ซึ่งข้อเขียนดังกล่าว ได้แก่หนังสือ “حَيَاةُ اْلأَلْبَانِىِّ” ของท่านเช็ค อัช-ชัยบานีย์ อันมีเนื้อหาบางส่วนเป็นการหักล้างข้อเขียนของท่านเช็คอิสมาอีล อัล-อันศอรีย์ข้างต้น, .. และหนังสือ “اَلرَّدُّ الْعِلْمِىُّ عَلَى حَبِيْبِ الرَّحْمِنَ اْلأَعْظَمِىّ” ที่ร่วมกันเขียนโดยท่านเช็คสุลัยม์ อัล-ฮิลาลีย์ และท่านเช็คอะลีย์หะซัน อะลีย์ อับดุลหะมีด สองนักวิชาการหะดีษที่ยังมีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน .. เป็นหนังสือที่เขียนขึ้นมาเพื่อตอบโต้และหักล้างข้อเขียนของท่านเช็คอัรฺชัด อัส-สะละฟีย์ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ ท่านเช็คหะบีบุรฺ เราะห์มาน อัล-อะอฺซอมีย์ ดังกล่าวมาแล้ว ...
เท่าที่เขียนอธิบายมานี้ ก็เพื่อเป็นการเปิดเผยให้ท่านผู้อ่านได้รับทราบว่า ผมเขียนเกี่ยวกับเรื่องเครื่องประดับทองคำสตรีนี้ มิใช่อาศัยข้อมูลจากเพียงฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด แต่ผมอาศัยข้อมูลจากทั้งสองฝ่าย มาประกอบกับการศึกษาค้นคว้าโดยส่วนตัวของผมเอง โดยพยายามจะใช้ดุลยพินิจแห่ง “ความเป็นกลาง” ให้มากที่สุดในการเขียนครั้งนี้ ...
แล้วผมก็พบว่า แม้ข้อเขียนของท่านเช็คอิสมาอีล อัล-อันศอรีย์ และท่านเช็คอัรฺชัด อัส-สะละฟีย์ จะสอดคล้องกับทัศนะของนักวิชาการส่วนใหญ่ก็จริง แต่ก็ไม่สามารถหักล้างข้อเขียนของท่านเช็คอัล-อัลบานีย์, ท่านเช็คอัช-ชัยบานีย์, ท่านเช็คสุลัยม์ อัล-ฮิลาลีย์ และท่านเช็คอะลีย์หะซันได้ นอกจากเพียงบางส่วนเท่านั้น .. ดังที่ท่านผู้อ่านจะได้เห็นต่อไป ...
จะอย่างไรก็ตาม ผมขอกล่าวอีกครั้งว่า ผมไม่เคยพูดหรือฟัตวาชัดเจนแม้แต่ครั้งเดียวเลยว่า แหวนทองคำ, สร้อยทองคำ, และกำไลทองคำ เป็นสิ่งต้องห้าม (หะรอม) สำหรับมุสลิมะฮ์, ผมจะพูดแต่เพียงว่า ผมไม่สบายใจและเห็นว่ามุสลิมะฮ์ไม่สมควรใช้เครื่องประดับเหล่านี้ เพราะแนวโน้มของหลักฐาน มันส่อไปในทางที่น่าจะเป็นเรื่องต้องห้ามดังทัศนะของท่านอัล-อัลบานีย์ .. ซึ่งผมก็ไม่ปฏิเสธว่า ได้เคยพูดในลักษณะเช่นนี้มานานแล้ว เท่าที่เวลาและโอกาสอันเหมาะสมจะอำนวยให้ ...
ประเด็นสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่สมควรจะต้องชี้แจงกันก็คือ แนวโน้มของข้อห้ามเกี่ยวกับเครื่องประดับสตรีที่ทำจากทองคำนั้น เป็นเรื่องจำกัดเฉพาะแหวน, กำไล และสร้อยคอเท่านั้น มิได้ครอบคลุมไปถึงเครื่องประดับทองคำในลักษณะอย่างอื่น เช่น จี้ทองคำ, ปิ่นปักผมทองคำ, กระดุมทองคำ, เข็มกลัดทองคำ, หวีทองคำ, กรอบแว่นตาทองคำ, หรือตุ้มหูทองคำบางลักษณะ ฯลฯ .. ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ มีบางคนกล่าวหาว่า ท่านอัล-อัลบานีย์ ห้ามสตรีจากการใช้เครื่องประดับที่ทำจากทองคำทุกชนิด อันถือว่า เป็นเรื่องของการใส่ร้ายป้ายสีกันมากกว่า ...
เพื่อให้ท่านผู้อ่านเข้าใจง่ายขึ้น ในช่วงแรกนี้ ผมก็จะเขียนอธิบายเรื่องนี้ โดยเรียงลำดับดังต่อไปนี้ ...
1. หลักการขั้นพื้นฐานของอิสลามเกี่ยวกับเครื่องประดับและอื่นๆ ..
2. ผ้าไหมและทองคำ เป็นที่ต้องห้ามสำหรับบุรุษ แต่เป็นที่อนุมัติสำหรับสตรี ..
3. ห้ามทั้งบุรุษและสตรี ดื่มกินจากภาชนะที่ทำจากทองคำหรือเงิน ..
4. หลักฐานจากหะดีษที่ห้ามสตรีใช้แหวนทองคำ, กำไลทองคำ และสร้อยทองคำ พร้อมการวิเคราะห์ข้อเท็จจริงของหะดีษเหล่านั้น และชี้แจงข้อโต้แย้งของท่านเช็คอิสมาอีล อัล-อันศอรีย์ และเช็คอัรฺชัด อัส-สะละฟีย์ ..
5. หลักฐานจากหะดีษที่อนุญาตให้สตรีใช้เครื่องประดับที่ทำจากทองคำได้และการวิเคราะห์หลักฐานเหล่านั้นเท่าที่จำเป็น ..
ต่อไปนี้ คือรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ตามลำดับข้างต้น ...
นักวิชาการที่ห้ามสตรีใช้แหวน, กำไล, และสร้อยทองคำ
มีข้อมูลระบุมาว่า นักวิชาการในอดีตบางท่านมีทัศนะว่า เครื่องประดับที่ทำจากทองคำ เป็นเรื่องต้องห้ามสำหรับสตรี ดังที่จะกล่าวถึงต่อไป แต่ทัศนะเหล่านั้น ก็ไม่สู้จะเป็นที่รับรู้กันแพร่หลายนัก ...
นักวิชาการยุคใหม่ที่เปิดประเด็นเรื่องนี้ขึ้นมา ก็คือ ท่านเช็คมุหัมมัด นาศิรุดดีน อัล-อัลบานีย์ ซึ่งท่านผู้นี้เป็นนักวิชาการหะดีษที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับกันมากที่สุดในยุคปัจจุบัน และเพิ่งจะสิ้นชีวิตไปเมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง ...
ท่านเช็คอัล-อัลบานีย์ ได้เขียนในหนังสือ “อาดาบุส ซะฟาฟ” ชึ้แจงและวิเคราะห์หลักฐานเกี่ยวกับเรื่องนี้ในทุกแง่ทุกมุมตามมุมมองของท่าน แล้วสรุปว่า เครื่องประดับของสตรีตามลักษณะข้างต้น คือ แหวน, กำไล, และสร้อยคอที่เป็นทองคำนั้น มิใช่เป็นที่ต้องห้ามเฉพาะบุรุษเท่านั้น แต่ยังเป็นที่ต้องห้ามสำหรับสตรีด้วยเช่นเดียวกัน ...
ข้อเขียนดังกล่าวนี้ของท่านอัล-อัลบานีย์ ถือเป็นการหักล้างข้อเขียนของท่านอิบนุ หัสมิน (สิ้นชีวิตปี ฮ.ศ. 456) ที่ได้เขียนไว้ในหนังสือ “อัล-มุหั้ลลา” ของท่าน เล่มที่ 10 หน้า 82-86 ซึ่งสรุปว่า เครื่องประดับที่เป็นทองคำนั้น เป็นที่อนุมัติสำหรับสตรีในทุกรูปแบบ, .. และยังเป็นการหักล้างความเชื่อถือเดิมของมุสลิมทั่วๆไป (รวมทั้งตัวผมเองด้วย) ที่เคยเข้าใจในเรื่องนี้เหมือนข้อเขียนของท่านอิบนุ หัสมิน ...
แน่นอน, ข้อเขียนของท่านอัล-อัลบานีย์ในเรื่องนี้ สร้างความสั่นสะเทือนให้กับวงการมุสลิมและมุสลิมะฮ์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะบรรดานักวิชาการ, ซึ่งมีทั้งที่เห็นด้วยและคัดค้านทัศนะดังกล่าวของท่าน ...
ข้อเขียนของผู้ที่คัดค้านทัศนะดังกล่าวของท่านอัล-อัลบานีย์เท่าที่ผมอ่านเจอก็คือหนังสือ “إِبَاحَةُ التَّحَلِّىْ بِالذَّهَبِ الْمُحَلَّقِ لِلنِّسَاءِ” ของท่านเช็คอิสมาอีล อัล-อันศอรีย์,และหนังสือ “اَْلأَلْبَانِىُّ، شُذُوْذُهُ وَأَخْطَاؤُهُ” ของท่านเช็คอัรฺชัด อัส-สะละฟีย์ ซึ่งพิมพ์ผนวกไว้ตอนท้ายหนังสือดังกล่าวของท่านเช็คอิสมาอีล อัล-อันศอรีย์อีกทีหนึ่ง ...
หมายเหตุ ชื่อ “อัรฺชัด อัส-สะละฟีย์” เป็นนามแฝง, .. ชื่อจริงก็คือ เช็คหะบีบุรฺ เราะห์มาน อัล-อะอฺซอมีย์ ดังที่ถูกเปิดโปงในภายหลัง .. ซึ่งการใช้นามแฝงในการเขียนคัดค้านท่านอัล-อัลบานีย์ของท่านเช็คผู้นี้ ทำให้ท่านถูกมองอย่างตำหนิว่า ไม่กล้าสู้ความจริงเท่าที่ควร ...
ส่วนข้อเขียนของผู้ที่สนับสนุนแนวคิดของท่านอัล-อัลบานีย์เท่าที่อ่านเจอ ก็มักจะเป็นนักวิชาการหะดีษที่ศรัทธาในวิชาการและแนวคิดของท่าน ซึ่งข้อเขียนดังกล่าว ได้แก่หนังสือ “حَيَاةُ اْلأَلْبَانِىِّ” ของท่านเช็ค อัช-ชัยบานีย์ อันมีเนื้อหาบางส่วนเป็นการหักล้างข้อเขียนของท่านเช็คอิสมาอีล อัล-อันศอรีย์ข้างต้น, .. และหนังสือ “اَلرَّدُّ الْعِلْمِىُّ عَلَى حَبِيْبِ الرَّحْمِنَ اْلأَعْظَمِىّ” ที่ร่วมกันเขียนโดยท่านเช็คสุลัยม์ อัล-ฮิลาลีย์ และท่านเช็คอะลีย์หะซัน อะลีย์ อับดุลหะมีด สองนักวิชาการหะดีษที่ยังมีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน .. เป็นหนังสือที่เขียนขึ้นมาเพื่อตอบโต้และหักล้างข้อเขียนของท่านเช็คอัรฺชัด อัส-สะละฟีย์ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ ท่านเช็คหะบีบุรฺ เราะห์มาน อัล-อะอฺซอมีย์ ดังกล่าวมาแล้ว ...
เท่าที่เขียนอธิบายมานี้ ก็เพื่อเป็นการเปิดเผยให้ท่านผู้อ่านได้รับทราบว่า ผมเขียนเกี่ยวกับเรื่องเครื่องประดับทองคำสตรีนี้ มิใช่อาศัยข้อมูลจากเพียงฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด แต่ผมอาศัยข้อมูลจากทั้งสองฝ่าย มาประกอบกับการศึกษาค้นคว้าโดยส่วนตัวของผมเอง โดยพยายามจะใช้ดุลยพินิจแห่ง “ความเป็นกลาง” ให้มากที่สุดในการเขียนครั้งนี้ ...
แล้วผมก็พบว่า แม้ข้อเขียนของท่านเช็คอิสมาอีล อัล-อันศอรีย์ และท่านเช็คอัรฺชัด อัส-สะละฟีย์ จะสอดคล้องกับทัศนะของนักวิชาการส่วนใหญ่ก็จริง แต่ก็ไม่สามารถหักล้างข้อเขียนของท่านเช็คอัล-อัลบานีย์, ท่านเช็คอัช-ชัยบานีย์, ท่านเช็คสุลัยม์ อัล-ฮิลาลีย์ และท่านเช็คอะลีย์หะซันได้ นอกจากเพียงบางส่วนเท่านั้น .. ดังที่ท่านผู้อ่านจะได้เห็นต่อไป ...
จะอย่างไรก็ตาม ผมขอกล่าวอีกครั้งว่า ผมไม่เคยพูดหรือฟัตวาชัดเจนแม้แต่ครั้งเดียวเลยว่า แหวนทองคำ, สร้อยทองคำ, และกำไลทองคำ เป็นสิ่งต้องห้าม (หะรอม) สำหรับมุสลิมะฮ์, ผมจะพูดแต่เพียงว่า ผมไม่สบายใจและเห็นว่ามุสลิมะฮ์ไม่สมควรใช้เครื่องประดับเหล่านี้ เพราะแนวโน้มของหลักฐาน มันส่อไปในทางที่น่าจะเป็นเรื่องต้องห้ามดังทัศนะของท่านอัล-อัลบานีย์ .. ซึ่งผมก็ไม่ปฏิเสธว่า ได้เคยพูดในลักษณะเช่นนี้มานานแล้ว เท่าที่เวลาและโอกาสอันเหมาะสมจะอำนวยให้ ...
ประเด็นสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่สมควรจะต้องชี้แจงกันก็คือ แนวโน้มของข้อห้ามเกี่ยวกับเครื่องประดับสตรีที่ทำจากทองคำนั้น เป็นเรื่องจำกัดเฉพาะแหวน, กำไล และสร้อยคอเท่านั้น มิได้ครอบคลุมไปถึงเครื่องประดับทองคำในลักษณะอย่างอื่น เช่น จี้ทองคำ, ปิ่นปักผมทองคำ, กระดุมทองคำ, เข็มกลัดทองคำ, หวีทองคำ, กรอบแว่นตาทองคำ, หรือตุ้มหูทองคำบางลักษณะ ฯลฯ .. ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ มีบางคนกล่าวหาว่า ท่านอัล-อัลบานีย์ ห้ามสตรีจากการใช้เครื่องประดับที่ทำจากทองคำทุกชนิด อันถือว่า เป็นเรื่องของการใส่ร้ายป้ายสีกันมากกว่า ...
เพื่อให้ท่านผู้อ่านเข้าใจง่ายขึ้น ในช่วงแรกนี้ ผมก็จะเขียนอธิบายเรื่องนี้ โดยเรียงลำดับดังต่อไปนี้ ...
1. หลักการขั้นพื้นฐานของอิสลามเกี่ยวกับเครื่องประดับและอื่นๆ ..
2. ผ้าไหมและทองคำ เป็นที่ต้องห้ามสำหรับบุรุษ แต่เป็นที่อนุมัติสำหรับสตรี ..
3. ห้ามทั้งบุรุษและสตรี ดื่มกินจากภาชนะที่ทำจากทองคำหรือเงิน ..
4. หลักฐานจากหะดีษที่ห้ามสตรีใช้แหวนทองคำ, กำไลทองคำ และสร้อยทองคำ พร้อมการวิเคราะห์ข้อเท็จจริงของหะดีษเหล่านั้น และชี้แจงข้อโต้แย้งของท่านเช็คอิสมาอีล อัล-อันศอรีย์ และเช็คอัรฺชัด อัส-สะละฟีย์ ..
5. หลักฐานจากหะดีษที่อนุญาตให้สตรีใช้เครื่องประดับที่ทำจากทองคำได้และการวิเคราะห์หลักฐานเหล่านั้นเท่าที่จำเป็น ..
ต่อไปนี้ คือรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ตามลำดับข้างต้น ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น