อารัมภบทของอาจารย์ปราโมทย์

พี่น้องที่เคารพครับ .. ขอเรียนว่า ส่วนใหญ่ของปัญหาที่ถูกถามมาเป็นปัญหาขัดแย้งหรือปัญหาคิลาฟียะฮ์ เพราะฉะนั้น ในการตอบปัญหาดังกล่าว หากปัญหาใดไม่สำคัญมากนัก ผมก็จะตอบแบบสรุปตามทัศนะที่มีน้ำหนักด้านหลักฐานมากที่สุดสำหรับผมโดยไม่ได้นำมุมมองด้านตรงข้ามมาด้วย แต่หากปัญหาใดจำเป็นต้องมีการชี้แจง ผมก็จะนำหลักฐาน(และการวิเคราะห์)รายละเอียดทั้งสองด้าน ประกอบในคำตอบด้วย และขอเรียนว่า

(1). คำตอบของผมแทบทั้งหมดไม่ใช่เป็นการอธิบายหะดีษหรืออัล-กุรฺอานเอาเองอย่างที่บางคนเข้าใจ แต่จะมีที่มาจากอิหม่ามทั้ง 4 ท่านที่โลกอิสลามยอมรับและนักวิชาการระดับโลกท่านอื่นๆด้วยทั้งสิ้น เพียงแต่บางครั้งผมมิได้อ้างนามพวกท่านในการตอบก็เพื่อประหยัดเวลาในการเขียนเท่านั้น

(2). คำตอบของผมในปัญหาใด ไม่ถือว่าเป็น "ข้อชี้ขาด" ความขัดแย้งในปัญหานั้น แต่เป็นการตอบตามการมองหลักฐานว่ามีน้ำหนักที่สุดในมุมมองของผม ซึ่งมุมมองของผมอาจจะผิดพลาดก็ได้ พระองค์อัลลอฮ์ ซ.บ. เท่านั้นที่ทรงรู้ดียิ่งในเรื่องนี้ ...

อ.ปราโมทย์ (มะหมูด) ศรีอุทัย


ติดต่ออาจารย์ปราโมทย์โดยตรงได้ที่

1. 1/22 หมู่บ้านสุขสมบูรณ์ ม. 5 ต. นาเคียน อ. เมือง จ. นคร ศรีธรรมราช รหัส 80000

2. เบอร์โทรศัพท์ 086-6859660

3. Facebook

4. เว็บไซต์

5.อีเมล
pramote.sriutai2559@gmail.com

วันพฤหัสบดีที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2560

อ่านตัลกีลให้กับผุ้ตาย สุนนะใคร (ตอนที่ 3 )



โดยอ. ปราโมทย์ ศรีอุทัย 


และต่อไปนี้ จะเป็นการขึ้แจงข้อเท็จจริงของปัญหาเรื่อง “ตัลกีน” 'จากหนังสือฉบับที่เป็นภาษาไทย ภายใด้ขึ้อหนังสือ ว่า “ข้อโด้แยังปัญหาคาสนา” เล่มที่ 1 -..
1. มีกล่าวในหน้า 127 ว่า “ปวงปราชญ์มัสอับชาหิเอีย์, อบูฮะนิฟะฮ์, อิบนุอัมบัล และมาลิกีย์ ต่างก็ฟ้'ตวากันว่า การตัลกีนนั้นเป็นสุนัด เป็นประโยชน์แก่ผู้ตายในกุบูรุ” .1.
ขอตอบว่า นี้เป็นการอ้างเอาเองที่ข้ดแย้งต่อข้อเท็จจริง
เพื่อต้องการจะตบตาผู้อ่านที่ใม่มิความรู้ในเรื่องศาสนา เพราะตามความเป็นจริงนั้น มัสฮับชาฟิอีย์ (มิใช่ตัวท่าน อิหม่ามซาฟีอีย์) เพียงมัสฮับเดียวทีมิการฟัดวาว่า การอ่าน ตัลกีนเป็นสุนัต, ส่วนมัสฮับอิ่น ๆ อาทิเช่น มัสฮับมาลิกีย์ ถือว่าการอ่านตัลกีนเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจ, มัสฮับหะนฝีย์ ถือว่า ฮารุศ คือจะอ่านกีได้ ไม่อ่านก็ได้ ส่วนมัสฮับอัมบาลีย์ ไม่ปรากฎทัศนะที่แน่ชัดเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่จากคำพูดของ ท่านฮัมบาลีเองส่อให้เห็นว่าการอ่านตัลกีนนั้น ไม่มิหลักฐาน ที่ถูกต้องจากซุนนะฮ์ -..
(ดู อัล อิบดาอ์ ฟิมะฏอร อัลอิบติดาอ์ หน้า 248-249)
2. มิกล่าวในหน้า 133 ว่า “และมีสุนัดให้อ่าน “ยาซีน” แก่คนที่ใกล้จะตาย เพื่อวิญญาณจะได้ออกจากร่างได้ง่าย” -..
ขอตอบว่า หะดีษเกี่ยวก้บเริองการอ่านยาชีนให้แก'คน ที่ใกล้จะตายเป็นหะดีษอ่อน หริอฎออิฟ ซึ่งหะดีษตังกล่าวมี ข้อความว่า .-.

إِ قْرَوءُ وْا ~يس عَلَا مَوْ تا كُمْ

“จงอ่าน ยาซีนให้แก่พวกท่านที่ไกล้ตาย”
(ดู อบูดาวูด หะดิษที่ 3105 , อิบนุอบีชัยบ๊ะ เล่มที่ 4 หน้าที 74 ฉบับพิมพ์ที่ประเทศอินเดีย, อิบนุมาญะ หะดิษที่ 1448, อัลหากิม เล่มที่ 1 หน้าที่ 565 ,อัลบัยหะกี เล่มที่ 3 หน้าที่ 383, อัฏ เฏาะยาลีซีย์ หะดิษที่ 931, อะหมัด เล่มที่ 5 หน้าที่ 26,27)

หะดีษบทนี้ มีข้อบกพร่องอยู่ 2 ประการคือ 1..
1. การรายงานสับสน (อิฏฎิรอบ) เพราะรายงานบาง กระแสกล่าวว่า “จากอบี อุษมาน, จากบิดาของเขา, จาก ท่านมะอ์กิล บินยะชารฺ ร.ฎ.” แต่บางกระแสกล่าวว่า “จาก อบิ อุษมาน, จากมะอ์กิล บินยะซารุ” โดยไม่มีการระบุว่า “จากบิดาของเขา” อย่างกระแสแรก

2. อบิ อุษมานและบิดาของเขา, ทั้งสองคนนี้เป็น ผู้ที่ไม่มีการบันทึกประว้ติ ไว้ในตำราเกี่ยวกับรายนามของ ผู้รายงานหะดีษเล่มใด หรือที่เรียกตามศัพท์วิซาการว่า “มัจญฮูล” ...(ดู อิรวอุล ฆอลีล เล่มที่3 หน้าที่ 151) ด้วยเหตุนี้ ท่านอิบนุล ก็อฎฎอน จึงได้กล่าวไว้โน “อัด ตัลคีส” ของท่าน หน้า 153 ว่า...

وَ نَفَقَلاَ أَ بٌوْبَكْرِ بْنُ اْلعَرَ بِيِّ عَنِ الدَّا رُ قُطْنِيّ أَ نَّهُ قَلَ . . هَزَا حَدِ يثٌ ضَعِيْفٌ الْاءِ َسنَادِ
مَجْهُوْ لُ اْلَمْتنِ , وَ لَا يَصِحٌ فِى اْلبِا بِ حَدِ يثٌ

“ท่านอบู บักรฺ อิบนุลอะเราะปีย์ได้คัดลอกคำพูดมา จากท่านอัดดารุ กุฎนีย์-ว่า “นี่ เป็นหะดีษ ซึ่งการรายงาน ชองมันบกพร่อง, ตัวบทของมันก็ไม่ค่อยชัดเจน และหะดีษ ที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่มีถูกต้องเลยแม้แต่บทเดียว”
อีกสำนวนหนึ่งของหะดีษนี้ ซึ่งท่านอบู นะอีม ได้ บันทึกไว้ใน “อัคบารฺ อัศฺบิฮาน” เล่มที่ 1 หน้า 188 โดย รายงานมาจากท่านอปี ตัรฺดา, จากท่านรซลุลลอฮ์ ช.ล. มีข้อความว่า .

مَا مِنْ َميِّتٍ يَمُوْ تُ فَيُقْر أُ هُ٠٠~يس٠٠ إِلَّ هَوَّ نَ اللهُ عَلَيْهِ

“ไม่มีผู้ตายคนใดที่ตอนเมื่อเขาจะตาย ได้มีการอ่าน “ยาซีน” ให้แก่เขา เว้นไว้แต่ว่า พระองค์อัลลอฮฺ ช.บ.จะ ใหวิญญานออกจากร่างเขาอย่างง่ายดาย”
ปรากฏว่า หะดีษบทนี้ก็เป็นหะดีษที่อ่อนมากเช่นเดียว กัน เพราะในสายรายงานของมันมีซึ่อของ “มัร-วาน บิน ซาลิม อัลคิฟารีย์ “ ซึ่งท่านอะห์มัดและท่านนซาอีย์กล่าว วิจารณ์ว่า “เป็นผู้ที่ไม่มีความหมาย”,ท่านอิบนุ หะญัรุ อัลอัสเกาะลานีย์ กล่าวว่า “เป็นผู้ที่ถูกเมิน” (มัดรูก), ท่าน อัสชาญีย์และท่านอบู อฺะรูบะฮ์กล่าวว่า “เขาเป็นผู้ที่ชอบ ปลอมหะดีษ”
(ดู อัตตักรีบ เล่มที่2 หน้า239 ,อัฏฏอะฟาอ์ วัลตัตรูกีน ของนซาอีย์ หน้า 255, มีซนุล เอียะติดาล”เล่มที่4 หน้าที่90, อิรวาอุลฆอลีล” เล่ม3 หน้า 153)
สรุปแล้ว การอ่านยาชีนให้แก่ผู้ที่ใกล้จะตายอย่างที่ นิยมปฎิบัติกันอยู่นั้น เป็นสิ่งที่ไม่มีหลักฐานที่ถูกต้องแม้แต่ บทเดียวมายืนยันไว้ ส่วนหะดีษที่มีรายงานมาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็ล้วนแล้วแต่เป็นหะดีษที่อ่อนมากอย่างที่ใต้กล่าว'วิจารณ์มา แล้ว, ด้วยเหตุนี้ ท่านอัลบานิย์จึงได้กล่าวเอาไว้ว่า “การ อ่านยาชีนให้แก่ผู้ที่ใกล้จะตาย เป็นบิดอฺะฮ์”(ดู อะห์กามุล ญะนาอิซ ” หน้า 243)
หลักฐานที่ถูกต้องเกี่ยวกับการสอนผู้ที่ใกล้จะตายนั้น ดีอสอนให้เขากล่าวว่า “ลาอิลา ฮะอิลลัลลอฮ์” เพราะมี หะดีษซึ่งรายงานมาจากการบันทึกของท่านมุสลิม, อบู ดาวูด, ดิรุมีชีย์, ฯลฯ ซึ่งผู้เขียนไมจำเป็นจะต้องนำมาลง บันทึกไว้ในที่นี้อีก เพราะเป็นเรื่องที่รู้และยอมรับกันอย่าง แพร่หลายทั่วไปอยู่แล้ว.....





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น