อารัมภบทของอาจารย์ปราโมทย์

พี่น้องที่เคารพครับ .. ขอเรียนว่า ส่วนใหญ่ของปัญหาที่ถูกถามมาเป็นปัญหาขัดแย้งหรือปัญหาคิลาฟียะฮ์ เพราะฉะนั้น ในการตอบปัญหาดังกล่าว หากปัญหาใดไม่สำคัญมากนัก ผมก็จะตอบแบบสรุปตามทัศนะที่มีน้ำหนักด้านหลักฐานมากที่สุดสำหรับผมโดยไม่ได้นำมุมมองด้านตรงข้ามมาด้วย แต่หากปัญหาใดจำเป็นต้องมีการชี้แจง ผมก็จะนำหลักฐาน(และการวิเคราะห์)รายละเอียดทั้งสองด้าน ประกอบในคำตอบด้วย และขอเรียนว่า

(1). คำตอบของผมแทบทั้งหมดไม่ใช่เป็นการอธิบายหะดีษหรืออัล-กุรฺอานเอาเองอย่างที่บางคนเข้าใจ แต่จะมีที่มาจากอิหม่ามทั้ง 4 ท่านที่โลกอิสลามยอมรับและนักวิชาการระดับโลกท่านอื่นๆด้วยทั้งสิ้น เพียงแต่บางครั้งผมมิได้อ้างนามพวกท่านในการตอบก็เพื่อประหยัดเวลาในการเขียนเท่านั้น

(2). คำตอบของผมในปัญหาใด ไม่ถือว่าเป็น "ข้อชี้ขาด" ความขัดแย้งในปัญหานั้น แต่เป็นการตอบตามการมองหลักฐานว่ามีน้ำหนักที่สุดในมุมมองของผม ซึ่งมุมมองของผมอาจจะผิดพลาดก็ได้ พระองค์อัลลอฮ์ ซ.บ. เท่านั้นที่ทรงรู้ดียิ่งในเรื่องนี้ ...

อ.ปราโมทย์ (มะหมูด) ศรีอุทัย


ติดต่ออาจารย์ปราโมทย์โดยตรงได้ที่

1. 1/22 หมู่บ้านสุขสมบูรณ์ ม. 5 ต. นาเคียน อ. เมือง จ. นคร ศรีธรรมราช รหัส 80000

2. เบอร์โทรศัพท์ 086-6859660

3. Facebook

4. เว็บไซต์

5.อีเมล
pramote.sriutai2559@gmail.com

วันพฤหัสบดีที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ละหมาดกิยามุ้ลลัยล์หลังละหมาดตะรอเวี๊ยะห์ (ตอนที่ 2)



ตอบคำถามคุณ Mubarok Adam (ตอนที่ 2)

เรื่องความหมายหะดีษ .. إِجْعَلُوْا آخِرَ صَلاَتِكُمْ بِاللَّيْلِ وِتْرًا

โดย อ. ปราโมทย์ ศรีอุทัย

(2). ถาม .. หะดีษที่ว่า .. إِجْعَلُوْا آخِرَ صَلاَتِكُمْ بِاللَّيْلِ وِتْرًا มีความหมายอย่างไร ? ...
ตอบ
หะดีษบทนี้แปลว่า .. "จงให้ละหมาดสุดท้ายยามค่ำคืนของพวกท่านเป็นละหมาดวิเตรฺ"
หะดีษบทนี้จึงเป็น "คำสั่ง" ของท่านรอซู้ลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ให้ละหมาด "สุดท้าย" ของพวกเราตอนกลางคืนเป็นละหมาดวิเตรฺ (ละหมาดที่มีร็อกอะฮ์เป็นจำนวนคี่) ...
พื้นฐาน "คำสั่ง" ตามกฎวิชาอุศู้ลุลฟิกฮ์ถือว่า เป็น "วาญิบ" .. คือ "จำเป็นจะต้องปฏิบัติตาม" .. ยกเว้นจะมีหลักฐานอื่นมาแปรเปลี่ยนคำสั่งนั้นจากวาญิบให้เป็นสุนัต ..
กรณีคำสั่งในหะดีษข้างต้นนี้ก็จัดเข้าอยู่ตามหลักเกณฑ์ยกเว้นดังกล่าว คือการละหมาดวิเตรฺเป็นละหมาดสุดท้ายยามค่ำคืนนั้นเป็นเพียงสุนัต มิใช่เป็นวาญิบ !.. ดังหลักฐานที่จะกล่าวถึงในตอนหลัง ...
ด้วยเหตุนี้ จึงมีรายงานว่า ทั้งเศาะหาบะฮ์และตาบิอีนจำนวนหนึ่งในอดีตที่หลังจากละหมาดวิเตรฺแล้วในช่วงต้นของกลางคืน จะตื่นขึ้นมาทำละหมาดตะฮัจญุดอีกในตอนดึก ...
มีรายงานมาว่า วิธีทำละหมาดตะฮัจญุดของเศาะหาบะฮ์และตาบิอีนเหล่านั้น แม้จะมี 2 ลักษณะที่แตกต่างกัน แต่มีเป้าหมายเดียวกันคือ เพื่อหลีกเลี่ยงจากการขัดแย้งกับคำสั่งให้ละหมาดวิเตรฺเป็นละหมาดสุดท้ายของหะดีษบทนี้ และหลีกเลี่ยงจากการขัดแย้งกับหะดีษอีกบทหนึ่งที่ท่านฏ็อลก์ บินอลีย์ ร.ฎ. ได้รายงานมาจากท่านรอซู้ลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมว่า ..
لاَ وِتْرَانِ فِىْ لَيْلَةٍ

"ไม่มีละหมาดวิเตรฺ 2 ครั้งในคืนเดียวกัน"
(บันทึกโดย ท่านอัน-นซาอีย์, ท่านอิบนุอบีชัยบะฮ์, ท่านอิบนุคุซัยมะฮ์, และท่านอื่นๆ)
ซึ่ง 2 ลักษณะการละหมาดตะฮัจญุดของเศาะหาบะฮ์และตาบิอีนหลังจากละหมาดวิเตรฺแล้ว มีดังนี้ ...
ลักษณะที่ 1. .. หลังจากละหมาดวิเตรฺแล้วในช่วงต้นของกลางคืน ก็จะลุกขึ้นมาทำละหมาดตะฮัจญุดในตอนดึกเป็น "ร็อกอะฮ์จำนวนคู่" เลย .. โดยไม่ต้อง "ยกเลิก" ละหมาดวิเตรฺที่ทำไปแล้ว และไม่ต้องทำละหมาดวิเตรฺใหม่อีกให้กลายเป็น 2 วิเตรฺที่ต้องห้ามในคืนเดียว
นี่คือสิ่งที่รับรู้และปฏิบัติกันแพร่หลายในมัษฮับชาฟิอีย์ .. ดังคำกล่าวของท่านอิหม่ามนะวะวีย์ในหนังสือ "อัล-มัจญมุอฺ" เล่มที่ 3 หน้า 480 ..
ท่านอิบนุ้ลมุนซิรฺได้อ้างรายงาน (ทั้งรายงานถูกต้องและไม่ถูกต้อง) ว่า ผู้ที่ปฏิบัติดังกล่าวนี้ได้แก่ ท่านอบูบักรฺ, ท่านอัมมารฺ บินยาซิรฺ, ท่านอิบนุอับบาส, ท่านสะอัด บินมาลิก, ท่านฏอวูส, ท่านอัลกอมะฮ์, ท่านมาลิก, ท่านอะห์มัด เป็นต้น ...
ลักษณะที่ 2 .. จะ "ยกเลิก" ละหมาดวิเตรฺ(ละหมาดจำนวนคี่) ที่ทำมาแล้วตอนต้นด้วยการทำละหมาดอีกร็อกอะฮ์หนึ่งเพื่อให้มันกลายเป็นจำนวนคู่กับวิเตรฺแรก จากนั้นก็จะทำละหมาดต่อไปเป็นคู่ๆตามต้องการ แล้วจะตบท้ายด้วยละหมาดวิเตรฺอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้เป็นไปตามคำสั่งท่านนบีย์ที่ให้ละหมาดสุดท้ายเป็นละหมาดวิเตรฺ ...
โดยนัยนี้ ละหมาดวิเตรฺตามทัศนะนี้ - ตามข้อเท็จจริง - จึงมีถึง 3 ครั้งในคืนเดียวกัน ..
ผู้ที่ปฏิบัติดังกล่าวนี้ - ตามรายงานของท่านอิบนุ้ลมุนซิรฺ - ได้แก่ท่านอุษมาน, ท่านอลีย์, ท่านสะอัด, ท่านอิบนุมัสอูด, ท่านอิบนุอับบาส, ท่านอิบนุซีรีน, ท่านอิบนุอุมัรฺ, ท่านอิสหาก บินอิบรอฮีม เป็นต้น ...
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในรายงานจากท่านอิบนุอุมัรฺ ร.ฎ. นั้น ท่านมัซรูกซึ่งเป็นตาบิอีนท่านหนึ่ง ได้ถามท่านว่า การกระทำดังกล่าวนี้เอาหลักฐานมาจากไหน ท่านอิบนุอุมัรฺ ร.ฎ. ตอบว่า ...
إِنَّمَا هُوَ شَيْئٌ أَفْعَلُهُ بِرَأْيِىْ، لاَ رِوَايَةَ عَنْ أَحَدٍ

"มันเป็นเพียงสิ่งที่ฉันทำตามความเห็น(ส่วนตัว)ของฉันเท่านั้น ไม่ใช่เป็นรายงานจากผู้ใดหรอก" ...
(บันทึกโดย ท่านอัฏ-เฏาะหาวีย์ในหนังสือ "ชัรฺห์มะอานีย์ อัล-อาษารฺ" เล่มที่ 1 หน้า 341) ...
ที่อธิบายมานั้นคือ "รายงานลักษณะการปฏิบัติ" ละหมาดตะฮัจญุดหลังละหมาดวิเตรฺ ของเศาะหาบะฮ์และตาบิอีนในยุคแรกๆ ซึ่งผมของดเว้นจากการออกความเห็นหรือวิจารณ์ใดๆทั้งสิ้น ...
ส่วนการที่ผมได้กล่าวในตอนต้นว่า แม้ท่านศาสดาจะสั่งให้ละหมาดวิเตรฺเป็นละหมาดสุดท้ายของกลางคืน และพื้นฐานของคำสั่งถือเป็นวาญิบ แต่คำสั่งในกรณีนี้ถือเป็นคำสั่งสุนัต มิใช่คำสั่งวาญิบ เพราะมีหลักฐานอื่นมา "เปลี่ยนแปลง" หลักการพื้นฐานนั้นดังต่อไปนี้ ..
ก. จาก "การกระทำ" ของท่านรอซู้ลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมเอง ...
ท่านหญิงอาอิชะฮ์ ร.ฎ. ได้รายงานมาตอนหนึ่งมีใจความว่า ในคืนหนึ่งท่านศาสดา ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ละหมาด 8 ร็อกอะฮ์รวดแล้วนั่งอ่านตะชะฮ์ฮุดครั้งแรก จากนั้นท่านก็ลุกขึ้นทำอีกหนึ่งร็อกอะฮ์ (ละหมาดวิเตรฺ) แล้วท่านก็นั่งอ่านตะชะฮ์ฮุดครั้งสุดท้ายแล้วให้สล่าม จากนั้นท่านก็ "ละหมาดอีก 2 ร็อกอะฮ์" ขณะกำลังนั่งอยู่ ...
(บันทึกโดยท่านมุสลิม, ท่านอบูดาวูด, ท่านอัน-นซาอีย์, ท่านอบูอะวานะฮ์, ท่านอิบนุนัศร์ และท่านอื่นๆ) ...
ท่านอิบนุ้ลก็อยยิม ได้อ้างในหนังสือ "ซาดุ้ลมะอาด" เล่มที่ 1 หน้า 111 ถึงทัศนะของนักวิชาการกลุ่มหนึ่งที่กล่าวว่า หะดีษบทนี้เป็นหลักฐานว่าอนุญาตให้ละหมาดสุนัตหลังละหมาดวิเตรฺได้, และคำสั่งของท่านศาสดาเรื่องให้ละหมาดวิเตรฺเป็นละหมาดสุดท้ายของกลางคืน ถือเป็นคำสั่งสุนัต มิใช่คำสั่งวาญิบ ...
ข. จาก "คำสั่ง" ของท่านรอซู้ลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ...
ท่านอิบนุคุซัยมะฮ์ได้บันทึกในหนังสือ "อัศ-เศาะเหี๊ยะฮ์" ของท่าน หะดีษที่ 1106, ท่านอัด-ดารุกุฏนีย์ในหนังสือ "อัส-สุนัน" เล่มที่ 2 หน้า 36, และท่านอัด-ดาริมีย์ในหนังสือ "อัส-สุนัน" หะดีษที่ 1594 โดยรายงานจากท่านเษาบาน ร.ฎ., จากท่านรอซู้ลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ที่กล่าวว่า ...
فَإذَا أَوْتَرَ أَحَدُكُمْ فَلْيَرْكَعْ رَكْعَتَيْنِ، فَإِنِ اسْتَيْقَظَ وَإِلاَّ كَانَتَا لَهُ

"เมื่อพวกท่านคนใดละหมาดวิเตรฺแล้ว ก็ให้เขาทำละหมาดอีก 2 ร็อกอะฮ์, เพราะถ้าหากเขาตื่นขึ้นมาในตอนกลางคืน(โดยไม่ได้ทำมันก่อนนอน ก็จะได้ทำมัน) แต่ถ้าเขาไม่ตื่น ทั้ง 2 ร็อกอะฮ์นั้นก็เป็นของเขา (คือเขาได้ทำมันก่อนนอน) แล้ว" ...
ท่านอิบนุคุซัยมะฮ์ได้กล่าวใหนังสือ "อัศ-เศาะเหี๊ยะฮ์" ของท่าน เล่มที่ 2 หน้า 159 สรุปว่า .. คำสั่งในหะดีษบทนี้ที่ให้ละหมาดสุนัตสองร็อกอะฮ์หลังจากละหมาดวิเตรฺแล้วแสดงว่า การละหมาดสุนัตหลังละหมาดวิเตรฺเป็นที่อนุญาตแก่ทุกคนที่ประสงค์จะทำมัน มิใช่เป็นเรื่อง "เฉพาะตัว" ของท่านศาสดา ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม แต่อย่างใด ...
หมายเหตุ
จากคำกล่าวของท่านศาสดา ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมที่ว่า .. "ก็ให้เขาทำละหมาดอีก 2 ร็อกอะฮ์" .. แสดงว่าท่านกำหนดให้ทำละหมาดหลังจากละหมาดวิเตรฺแล้วเพียง 2 ร็อกอะฮ์ ! .. และท่านเองก็ทำเพียง 2 ร็อกอะฮ์เช่นเดียวกัน ดังหลักฐานจากหะดีษบทที่ 1 .....
คำสั่งนี้ ก็คล้ายๆกับคำสั่งของท่านต่อผู้ที่เข้าไปในมัสญิดว่า ...
إَذَا دَخَلَ أَحَدُكُمُ الْمَسْجِدَ فَلْيَرْكَعْ رَكْعَتَيْنِ قَبْلَ أَنْ يَجْلِسَ

"เมื่อพวกท่านคนใดเข้าไปในมัสญิด ก็ให้เขาละหมาด 2 ร็อกอะฮ์ก่อนจะนั่งลง"
(บันทึกโดยท่านมุสลิม หะดีษที่ 69 จากท่านอบูกอตาดะฮ์ ร.ฎ.) ...
นั่นคือ คำสั่งให้ทำละหมาดตะหี้ยะตุ้ลมัสญิดได้ 2 ร็อกอะฮ์ ไม่น้อยหรือมากไปกว่านั้น ..
ผมไม่เคยเจอนักวิชาการท่านใดกล่าวว่า อนุญาตให้ทำละหมาดตะหี้ยะตุ้ลมัสญิดเกินกว่า 2 ร็อกอะฮ์ ตามที่ท่านนบีย์กำหนดไว้ได้ ..
เหมือนกับที่ผมไม่เคยเจอหะดีษมัรฺฟูอฺ (หะดีษที่อ้างไปถึงท่านศาสดา ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) บทใดที่กล่าวว่า อนุญาตให้ทำละหมาดหลังจากวิเตรฺเกิน 2 ร็อกอะฮ์ได้ ..
และเมื่อพิจารณาจากการกระทำของเศาะหาบะฮ์หรือตาบิอีนที่ผ่านมาที่ทำละหมาดหลังวิเตรฺเกินกว่า 2 ร็อกอะฮ์ ก็ไม่ปรากฏว่าพวกท่านคนใดจะอ้างหลักฐานยืนยันการกระทำของพวกท่านเลยเช่นเดียวกัน ...
สมมุติถ้าจะมีการอ้างหะดีษที่ว่า .. "การละหมาดตอนกลางคืน ให้ทำทีละคู่, ทีละคู่ ....." มาเป็นหลักฐานเรื่องอนุญาตทำละหมาดตอนกลางคืนได้มากเท่าที่ต้องการในกรณีนี้ก็คงไม่ได้
เพราะหะดีษบทนี้หมายถึง "การละหมาดกลางคืนก่อนละหมาดวิเตรฺ" .. ดังหลักฐานจากข้อความตอนท้ายของหะดีษนี้ที่ว่า .. "เมื่อพวกท่านคนใดกลัวจะถึงเวลาละหมาดซุบฮ์ ก็ให้เขาทำอีก 1 ร็อกอะฮ์ เพื่อมันจะได้เป็นวิเตรฺของสิ่งที่ทำไปแล้ว" ...
แต่ที่เรากำลังพูดถึงขณะนี้ คือ "ละหมาดสุนัตหลังจากละหมาดวิเตรฺแล้ว" .. ซึ่งเป็นคนละกรณีกับหะดีษบทนี้ แถมในการละหมาดสุนัตหลังละหมาดวิเตรฺ ยังมีคำสั่งชัดเจนจากท่านนบีย์ให้ทำเพียง 2 ร็อกอะฮ์ด้วย ...
ที่อธิบายมานี้ มิใช่ผมจะตัดสินว่า การละหมาดสุนัตหลังวิเตรฺเกินกว่า 2 ร็อกอะฮ์ ทำได้หรือทำไม่ได้ ...
ผมเพียงแต่ตั้งข้อสังเกตและสงสัยว่า ...
1. การละหมาดสุนัตหลังจากละหมาดวิเตรฺเกินกว่า 2 ร็อกอะฮ์ จะเป็นการฝ่าฝืนหรือทำ "เกินเลย" จากคำสั่งของท่านศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมหรือไม่ ? ..
2. มีหลักฐานบทใดที่อนุญาตให้กระทำอย่างนี้ได้ ? ...

อ. ปราโมทย์ ศรีอุทัย

15/6/60

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น