อารัมภบทของอาจารย์ปราโมทย์

พี่น้องที่เคารพครับ .. ขอเรียนว่า ส่วนใหญ่ของปัญหาที่ถูกถามมาเป็นปัญหาขัดแย้งหรือปัญหาคิลาฟียะฮ์ เพราะฉะนั้น ในการตอบปัญหาดังกล่าว หากปัญหาใดไม่สำคัญมากนัก ผมก็จะตอบแบบสรุปตามทัศนะที่มีน้ำหนักด้านหลักฐานมากที่สุดสำหรับผมโดยไม่ได้นำมุมมองด้านตรงข้ามมาด้วย แต่หากปัญหาใดจำเป็นต้องมีการชี้แจง ผมก็จะนำหลักฐาน(และการวิเคราะห์)รายละเอียดทั้งสองด้าน ประกอบในคำตอบด้วย และขอเรียนว่า

(1). คำตอบของผมแทบทั้งหมดไม่ใช่เป็นการอธิบายหะดีษหรืออัล-กุรฺอานเอาเองอย่างที่บางคนเข้าใจ แต่จะมีที่มาจากอิหม่ามทั้ง 4 ท่านที่โลกอิสลามยอมรับและนักวิชาการระดับโลกท่านอื่นๆด้วยทั้งสิ้น เพียงแต่บางครั้งผมมิได้อ้างนามพวกท่านในการตอบก็เพื่อประหยัดเวลาในการเขียนเท่านั้น

(2). คำตอบของผมในปัญหาใด ไม่ถือว่าเป็น "ข้อชี้ขาด" ความขัดแย้งในปัญหานั้น แต่เป็นการตอบตามการมองหลักฐานว่ามีน้ำหนักที่สุดในมุมมองของผม ซึ่งมุมมองของผมอาจจะผิดพลาดก็ได้ พระองค์อัลลอฮ์ ซ.บ. เท่านั้นที่ทรงรู้ดียิ่งในเรื่องนี้ ...

อ.ปราโมทย์ (มะหมูด) ศรีอุทัย


ติดต่ออาจารย์ปราโมทย์โดยตรงได้ที่

1. 1/22 หมู่บ้านสุขสมบูรณ์ ม. 5 ต. นาเคียน อ. เมือง จ. นคร ศรีธรรมราช รหัส 80000

2. เบอร์โทรศัพท์ 086-6859660

3. Facebook

4. เว็บไซต์

5.อีเมล
pramote.sriutai2559@gmail.com

วันอังคารที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2559

คนไทยต่างรัก เคารพและสำนึกในบุญคุณขององค์พระมหากษัตริย์



ตอบโดย อ.ปราโมทย์  ศรีอุทัย

ถาม
ที ผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามจะบังคับให้ ใส่ชุดำเพื่อไว้ทุกข์ ทั้งๆที่ หลักคำสอนก็ห้ามชัดเจน จึงอยากเรียนถาม เพื่อนต่างศาสนิกว่า พระภิกษุ เสียใจไหม ไว้ทุกข์ไหม กับเหตุการณ์ในขณะนี้ แล้วทำไม พระภิกษุทั่วเมืองไทย ถึงไม่ยอม ใส่จีวรดำ กันบ้างคับ ...? เปิดใจกันหน่อยคับ ทำไมไม่ขอให้พระ เณร แม่ชี ใส่จีวรดำกัน ละคับ ...?

ตอบ
จะอย่างไรก็ตาม เรื่องการแต่งกายสีดำหรือสีขาวในลักษณะ "ไว้ทุกข์" อันเป็นวัฒนธรรมของชาวไทยพุทธในประเทศไทยซึ่งเป็น "จุดต่าง" ที่ไทยมุสลิมไม่สามารถเลียนแบบคนไทยพุทธในเรื่องนี้ได้และมีการเขียนชี้แจงกันมามากแล้ว แต่ขณะเดียวกัน ทั้งสองฝ่ายก็มี "จุดร่วม" หรือ "จุดเหมือน" .. คือรัก, เคารพและสำนึกในบุญคุณขององค์พระมหากษัตริย์เหมือนกันและไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลย เพียงแต่การ "แสดงออก" ของทั้งสองฝ่ายอาจจะแตกต่างกันตามวัฒนธรรมศาสนาของแต่ละฝ่ายเท่านั้น ซึ่งขณะนี้ผมเชื่อว่าชาวไทยพุทธ - ส่วนใหญ่ - ซึ่งเป็นคนมีเหตุผลคงจะให้เกียรติและ "เข้าใจ" ในความจำเป็นของชาวไทยมุสลิมในกรณีนี้ เหมือนกับที่ชาวมุสลิมส่วนใหญ่ "ให้เกียรติ" และเข้าใจในวัฒนธรรมข้อนี้ของชาวพุทธโดยไม่เข้าไปก้าวก่ายหรือวิพากษ์วิจารณ์ใดๆทั้งสิ้น เมื่อเราทั้งสองฝ่ายเข้าใจซึ่งกันและกันแล้วเช่นนี้ จึงอยากจะขอร้องพี่น้องชาวไทยมุสลิมว่า ทางที่ดี ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เราควรยุติและไม่ควรไปวิเคราะห์เจาะลึกเรื่องชุดไว้ทุกข์นี้อีกต่อไป เพราะมิฉะนั้น เกรงว่า อาจจะเกิดผลเสียหรือเป็นชนวนให้เกิดความไม่เข้าใจกันขึ้นมาก็ได้ ไม่วันใดก็วันหนึ่งข้างหน้า ...

สำหรับพี่น้องมุสลิม (หรือไทยพุทธ)ท่านใดที่สงสัยว่า ชุดสีดำนี้ เมื่อไรหรือกาละเทศะไหนที่มุสลิมสวมได้หรือสวมไม่ได้ กรุณาโทรฯมาถามผมเป็นการส่วนตัวที่เบอร์ 086-6859660 น่าจะดีกว่าให้ผมตอบในเฟสนะครับ เพราะผมมองว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่อาจกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวได้ถ้าพวกเรายังไม่ยอมยุติ ... ...

.......

ผมขอชีแจงเพิ่มเติมอีกนิดหนึ่งว่า ชาวไทยมุสลิมทุกคนมีความรักต่อองค์พระมหากษัตริย์มิได้ยิ่งหย่อนไปกว่าชาวไทยพุทธหรอกครับ เพียงแต่ว่า การแสดงออกของชาวไทยมุสลิมต่อการสูญเสียใดๆ จะไม่แสดงออกด้วยการตีโพยตีพายหรือฟูมฟาย แต่พวกเราถูกสั่งให้อดทน, อดกลั้นต่อความสูญเสียนั้น ไม่ว่าผู้ที่จากไปจะเป็นพ่อแม่ของเราหรือแม้กระทั่งท่านศาสดาของเราเองก็ตาม เพราะฉะนั้น ทุกท่านที่เป็นไทยพุทธโปรดเข้าใจด้วยครับว่า พวกเรา - ชาวไทยมุสลิมทุกคน - รู้สึกเสียดายและอาลัยรักต่อการจากไปของพระองค์ท่านเหมือนกับพวกท่าน เพียงแต่เราไม่สามารถแสดงออกถึงความอาลัยรักนั้น แม้กระทั่งทางกายภาพหรือสัญลักษณ์ใดๆทางการแต่งกายเหมือนพวกท่านได้เท่านั้น ...


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น