ชี้แจงข้อเขียนคุณ Ahmadrashidi Alhabashi Alashari
โดย อ. ปราโมทย์ ศรีอุทัย
ผมไม่เคยแสดงความคิดเห็นใดๆต่อข้อเขียนของบุคคลนี้มาก่อน แม้จะไม่เห็นด้วยกับแทบทุกเรื่องที่เขาเขียนก็ตาม เพราะตามปกติจะมีผู้อื่นเขียนชี้แจงอยู่แล้ว ...
สำหรับในกรณีเรื่องการอ่านอุศ็อลลีย์ก่อนกล่าวตักบีรอตุ้ลเอี๊ยะห์รอม ที่ผมเขียนชี้แจงคุณ Ahmadrashidi Alhabashi Alashari มา ก็ใช่ว่าจะมีเจตนาหักล้างข้อเขียนของเขา,
แต่ต้องการชี้แจงสิ่งที่เขาและอาจารย์ของเขา - อ.รอฟิก ชมเผ่า - อ้างมาอย่างผิดๆ และยังไม่มีผู้ใดชี้แจงความจริงให้เขาได้รับทราบ ...
จากข้อเขียนของคุณ Ahmadrashidi Alhabashi Alashari ที่ว่า ...
" หลักฐานดังกล่าวที่ท่านอาจารย์ (รอฟิก) กล่าวไปว่า
ข้าพเจ้าจะเอาหะดีษเกี่ยวกับเรื่องนี้ หะดีษเกี่ยวกับการกล่าวอุศ็อลลี เป็นหะดีษที่ศอเฮี๊ยะห์ ครูของข้าพเจ้าได้บอกให้ข้าพเจ้าได้รู้ ในศอเฮี๊ยะห์ฮฺบุคอรีย์ และมุสลิม เกี่ยวกับเรื่องนี้ ปรากฏว่ามีจริงๆ พอไปเปิดศอเฮี๊ยะห์บุคคอรีย์และมุสลิม...จริงๆอย่างครูว่า
ดังกล่าวข้างต้นนี้ ท่านอาจารย์รอฟิก ได้ทำการตรวจสอบจากข้อมูลเกี่ยวกับหะดีษบทนี้จากหนังสือตัครีจของท่านอิหม่ามบุคคอรีย์และมุสลิมในตอนที่ท่านศึกษาอยู่ที่นครมักกะห์ ประทศซาอุดิอาราเบีย
ท่านอาจารย์รอฟิก ชมเผ่า ท่านได้ศึกษากับท่านมุหัดดิษบาบอเซ็ง สุราษฏร์ (ร.ฮ.) ในเรื่องภาควิชาหะดีษ ท่านถามบาบอเซ็งว่า
: หะดีษบทนี้ เอามาเป็นหลักฐานได้หรือไม่ ?
ท่านบาบอเซ็ง ตอบว่า : เอามาใช้เป็นหลักฐานได้
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
ก่อนอื่นผมขอเรียนว่า ...
ผมไม่เคยสนใจหนังสือตัครีจบุคอรีย์และมุสลิมอะไรที่เขาอ้างมาว่าจะมีจริงหรือไม่, และไม่เคยสนใจหะดีษที่บาบอเซ็ง สุราษฎร์ (ขออัลลอฮ์โปรดเมตตาต่อท่านด้วย) อ้างว่าเป็นหะดีษที่ถูกต้อง (ทั้งๆที่นักวิชาการหะดีษจริงๆยืนยันว่าเป็นหะดีษเก๊) ..
แต่ผมอยากชี้แจงกับคุณ Ahmadrashidi Alhabashi Alashari และ อ.รอฟิกว่า ...
(1) คำกล่าวของ อ.รอฟิกที่ว่า "ครูของข้าพเจ้าได้บอกให้ข้าพเจ้าได้รู้ ในศอเฮี๊ยะห์ฮฺบุคอรีย์ และมุสลิม" .. และคำกล่าวต่อมาที่ว่า "ปรากฏว่ามีจริงๆ พอไปเปิดศอเฮี๊ยะห์บุคคอรีย์และมุสลิม...จริงๆอย่างครูว่า" ...
ผมขอชี้แจงดังนี้ ..
คำว่า "ศอเฮี๊ยะห์บุคคอรีย์และมุสลิม" เป็นอิศฏิลาห์หรือศัพท์เท็คนิคด้านวิชาการที่รับรู้กันสำหรับนักวิชาการหะดีษว่า หมายถึง "หะดีษต่างๆที่มีบันทึกในตำรา "ศอเฮี๊ยะห์" ของทั้งสองท่านโดยเฉพาะ" !!! .. ไม่ได้หมายถึงตำราเล่มอื่นใดที่ท่านทั้งสองหรือผู้ใดเขียนอีก ...
เมื่อ อ.รอฟิกกล่าวว่า .. "ในศอเฮี๊ยะห์บุคคอรีย์และมุสลิม" และยังกล่าวย้ำว่า .. "พอไปเปิดศอเฮี๊ยะห์บุคคอรีย์และมุสลิม" ..... ก็เท่ากับเป็นการยืนยันว่า หะดีษเรื่องอ่านอุศ็อลลีย์ก่อนการตักบีรอตุ้ลเอี๊ยะห์รอม เป็นหะดีษศอเฮี๊ยะห์ที่มีบันทึกอยู่ในตำราศอเฮี๊ยะห์ของท่านบุคอรีย์และท่านมุสลิมจริงๆ ...
เป็นการยืนยันตั้ง 2 ครั้งด้วยกัน ...
เพราะฉะนั้น อ.รอฟิกหรือศิษย์ของท่าน จึงไม่มีสิทธิ์ไปอ้างหรือแก้ตัวว่า หะดีษที่อ้างมานั้นมีบันทึกอยู่ในตำราอื่นๆของท่านบุคอรีย์, ท่านมุสลิม หรือของบุคคลอื่นใดอีกทั้งสิ้น ..
ที่ถูกต้อง ทั้ง อ.รอฟิกและศิษย์ของท่านจะต้องบอกให้ได้ว่า หะดีษเรื่องอ่านอุศ็อลลีย์นี้ มีบันทึกอยู่ในบทใด, บาบอะไร ??? .. ของตำราศอเฮี๊ยะห์ทั้งสองเล่ม ตามที่กล่าวอ้างมานั้น ....
หากระบุให้ไม่ได้ ก็เท่ากับ อ.รอฟิกกล่าวเท็จให้แก่ท่านบุคอรีย์และท่านมุสลิม จริงดังที่ถูกกล่าวหา ...
ไม่ใช่ถูกใส่ร้ายอย่างที่คุณ Ahmadrashidi Alhabashi Alashari พยายามแก้ตัวแทนให้ ...
ทางที่ดี หาก อ.รอฟิกเป็นลูกผู้ชายชาติโต๊ะครูจริง อ. รอฟิกควรจะยอมรับความจริงเถอะครับว่า ท่านผิดพลาดหรือพลั้งเผลอในการอ้างอิง
ไม่มีมนุษย์คนไหนไม่เคยผิดพลาดหรือพลั้งเผลอหรอกครับ ...
คนผิดพลาดที่กล้ารับความจริงในความผิดพลาดของตนคือ "ผู้มีเกียรติที่ควรยกย่อง" ...
ส่วนคนผิดพลาดที่ยังดื้อรั้นหรือดันทุรังในความผิดพลาดต่อไป คือคนไร้เกียรติ .. มิใช่หรือครับ ...
(2). ที่เขียนมานี้ ผมไม่ได้เขียนในแง่ที่ว่า อ่านอุศ็อลลีย์ก่อนตักบีรอตุ้ลเอี๊ยะห์รอม เป็นบิดอะฮ์หรือไม่ ???
แต่เมื่อมีนักวิชาการจำนวนไม่น้อยกล่าวว่า อ่านอุศ็อลลีย์ก่อนตักบีรอตุ้ลเอี๊ยะห์รอม เป็นบิดอะฮ์ต้องห้าม หากจะรับฟังไว้บ้างก็ไม่เสียหายหรอกครับ ...
อย่ามองว่า เรื่องอ่านอุศ็อลลีย์เป็นเรื่องจิ๊บจ๊อย ไร้สาระเกินไปที่ผมหรือใครจะเอามาพูดให้เสียเวลา ...
ขอถามว่า ไม้ขีดไฟหนึ่งก้าน ราคาถึงหนึ่งสตางค์ไหม??? ...
ท่านก็คงยอมรับความจริงว่า ไม่ถึง ...
แต่เชื่อหรือไม่ .. ไม้ขีดไฟที่คุณมองว่าจิ๊บจ๊อยหนึ่งก้าน ราคาไม่ถึงหนึ่งสตางค์นี่แหละ สามารถเผาตึกราคาพันล้าน หรือแม้กระทั่งเมืองทั้งเมือง ให้วอดเป็นเถ้าถ่านได้ ...
เฉลียวใจบ้างไหมครับ ???
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น