อารัมภบทของอาจารย์ปราโมทย์

พี่น้องที่เคารพครับ .. ขอเรียนว่า ส่วนใหญ่ของปัญหาที่ถูกถามมาเป็นปัญหาขัดแย้งหรือปัญหาคิลาฟียะฮ์ เพราะฉะนั้น ในการตอบปัญหาดังกล่าว หากปัญหาใดไม่สำคัญมากนัก ผมก็จะตอบแบบสรุปตามทัศนะที่มีน้ำหนักด้านหลักฐานมากที่สุดสำหรับผมโดยไม่ได้นำมุมมองด้านตรงข้ามมาด้วย แต่หากปัญหาใดจำเป็นต้องมีการชี้แจง ผมก็จะนำหลักฐาน(และการวิเคราะห์)รายละเอียดทั้งสองด้าน ประกอบในคำตอบด้วย และขอเรียนว่า

(1). คำตอบของผมแทบทั้งหมดไม่ใช่เป็นการอธิบายหะดีษหรืออัล-กุรฺอานเอาเองอย่างที่บางคนเข้าใจ แต่จะมีที่มาจากอิหม่ามทั้ง 4 ท่านที่โลกอิสลามยอมรับและนักวิชาการระดับโลกท่านอื่นๆด้วยทั้งสิ้น เพียงแต่บางครั้งผมมิได้อ้างนามพวกท่านในการตอบก็เพื่อประหยัดเวลาในการเขียนเท่านั้น

(2). คำตอบของผมในปัญหาใด ไม่ถือว่าเป็น "ข้อชี้ขาด" ความขัดแย้งในปัญหานั้น แต่เป็นการตอบตามการมองหลักฐานว่ามีน้ำหนักที่สุดในมุมมองของผม ซึ่งมุมมองของผมอาจจะผิดพลาดก็ได้ พระองค์อัลลอฮ์ ซ.บ. เท่านั้นที่ทรงรู้ดียิ่งในเรื่องนี้ ...

อ.ปราโมทย์ (มะหมูด) ศรีอุทัย


ติดต่ออาจารย์ปราโมทย์โดยตรงได้ที่

1. 1/22 หมู่บ้านสุขสมบูรณ์ ม. 5 ต. นาเคียน อ. เมือง จ. นคร ศรีธรรมราช รหัส 80000

2. เบอร์โทรศัพท์ 086-6859660

3. Facebook

4. เว็บไซต์

5.อีเมล
pramote.sriutai2559@gmail.com

วันพุธที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

การอ่านศ่อละวาตแก่ท่านนบีย์หลังจากขอดุอาอ์




ตอบคำถามคุณ Sarinee Nuiwanna

ผมอยากทราบว่าการเศาะละวาต นบีย์ ที่เป็นที่นิยมกันตามมัสยิดต่าง ๆ หลักจากที่ขอดุอาเสร็จแล้ว (ศ็อลลัลลอฮฺอะลามุฮัมมัด.....ร็อบบี่ศ็อลลี่อะลัยฮิวะสัลลิม) ตัวบทเศาะละวาตบทนี้มีที่มาอย่างไร ใครเป็นคนสอน เพราะว่าเมื่อถามผู้รู้ถึงที่มาของตัวบทก็ไม่มีใครตอบให้ แต่กลับไปเอาหลักฐานอายะอัลกุรอานเรื่องการเศาะละวาตมาตอบ มีผู้รู้ท่านหนึ่งบอกผมว่ามันเป็นบทประพันธ์ ผมถามว่าเป็นบทประพันธ์ของใคร ก็ไม่ตอบอีก ในสถานะนักเรียนนักศึกษา ก็พยามยามเรียนรู้ศึกษาอิสลามเรื่อยๆ แล้วก็อ่านหะดีษไปเจอ เนื้อหาที่ว่า نهى عن تناشد الأشعار في المسحد บันทึกของ ติรมิซีย์ นะสาอีย์ ก็เลยเกิดข้อสงสัยว่า ถ้าบทเศาะวะวาตดังกล่าวเป็นบทประพันธ์ หะดีษบทนี้ใช่หลักฐานห้ามหรือไม่ครับ......
1. ขอหลักฐานที่มา ตัวบทเศาะละวาต(ศ็อลลัลลอฮฺอะลามุฮัมมัด.....ร็อบบี่ศ็อลลี่อะลัยฮิวะสัลลิม)
2. ขอคำอธิบาย หะดีษ เนื้อหาที่ว่า نهى عن تناشد الأشعار في المسحد
อาจารย์ครับ ผมรักอัลลอฮฺ รักเราะซูล รักศาสนาอิสลาม รักคุณธรรมและความถูกต้อง แต่ผมไปไม่ถึงสิ่งเหล่านี้ เมื่อเห็นผลงานต่างๆของอาจารย์ในเน็ต ไม่ว่าจะเป็น ตัวบท หลักฐาน คำอธิบาย มุมมองนักของวิชาการ ก็ประหนึ่งว่านบีย์มูซา ได้เห็นแสงไฟในความมืด ผมทราบดีว่า ทุกวินาทีนั้นมีค่า ขออัลลอฮฺทรงฮิดายะฮฺทางนำและความรู้ผ่าน สื่อ ที่เรียกว่า อาจารย์ปราโมทย์ ศรีอุทัยให้ผมด้วยเถิด
ขออัลลอฮฺตอบรับการงานของท่าน และทรงปกป้องพิทักษ์ท่านด้วยเถิด السلام عليكم ورحمة الله وبركاة


ตอบ ...

เรื่องการอ่านศ่อละวาตแก่ท่านนบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมหลังจากขอดุอาเสร็จแล้ว ด้วย "ถ้อยคำ" และ "ท่วงท่าลีลา" ดังที่คุณถามมานั้น ถ้าคุณถามถึงที่มาของมันว่า ตัวบทศ่อละวาตบทนี้มีที่มาอย่างไร? ใครเป็นคนสอน ? ..
ผมก็ขอตอบตามตรงว่า ถ้าคุณต้องการตัวบทหลักฐานจากหะดีษหรือซุนนะฮ์ของ ท่านรอซู้ลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม - ทั้ง "ถ้อยคำ" และ "กำหนดเวลากระทำ" หลังจากละหมาดหรือหลังจากพิธีกรรมต่างๆอย่างที่มีผู้คนจำนวนมากกระทำกันขณะนี้ ...
ผมก็ขอตอบว่า ผมไม่เคยเจอเช่นเดียวกัน ...
แต่เท่าที่ผมพอจะทราบมาจากผู้ที่เชื่อถือได้บางท่าน(แต่ผมไม่ขอยืนยันข้อเท็จจริงนะ)ว่า ผู้ "ริเริ่ม" อ่านศ่อละวาตด้วยถ้อยคำและลีลาดังกล่าวหลังจากละหมาดนั้น คืออดีตจุฬาราชมนตรีของประเทศไทยท่านหนึ่งซึ่งล่วงลับไปแล้ว (ขออัลลอฮ์โปรดเมตตาต่อท่านด้วย)
หลังจากนั้น ก็มีผู้เห็นดีเห็นงามตามการริเริ่มของท่านพลอยรับช่วงปฏิบัติต่อๆกันมาจนเป็นที่แพร่หลายอย่างที่เห็นในปัจจุบัน ...

คงไม่มีใครปฏิเสธหรอกว่า การอ่านศ่อละวาตแก่ท่านนบีย์ เป็น "สิ่งดี" ที่ควรปฏิบัติ, เพราะมีหลักฐานส่งเสริมทั้งในอัล-กุรฺอานและอัล-หะดีษ ...
แต่สิ่งที่จะต้องพิจารณาก็คือ การกระทำที่เรามากำหนดเอาเองทั้ง "ถ้อยคำ, ลีลา และกาละเทศะ" อย่างที่กระทำอยู่นี้ เราแน่ใจหรือว่า ศาสนาส่งเสริมให้ทำ ?? ...

หรือเราทึกทักเอาเองว่า ที่ทำกันอย่างนี้, ด้วยลีลาอย่างนี้, ในกาละเทศะอย่างนี้ มันเป็นสิ่งดี ?????

ท่านอัต-ติรฺมีซีย์ ได้บันทึกรายงานบทหนึ่งในหนังสือ "อัส-สุนัน" ของท่าน ในบาบว่าด้วยเรื่องสิ่งที่ผู้จามจะต้องกล่าว อันเป็นหะดีษที่ 2894 (บางเล่มเป็นหะดีษที่ 2882) โดยรายงานมาจากท่านนาฟิอฺ ว่า ...

"ชายผู้หนึ่ง ได้จามใกล้ๆกับท่านอับดุลลอฮ์ อิบนุอุมัรฺ แล้วเขาก็กล่าวว่า ...

اَلْحَمْدُ للهِ، وَالسَّلاَمُ عَلَى رَسُوْلِ اللهِ
(คือ เขากล่าวสรรเสริญอัลลอฮ์ด้วยคำว่า اَلْحَمْدُ للهِ، ด้วย, และกล่าวสล่ามแก่ท่านนบีย์ด้วยคำว่า وَالسَّلاَمُ عَلَى رَسُوْلِ اللهِ ด้วย) ....

ท่านอิบนุอุมัรฺ ร.ฎ. จึงกล่าวว่า

"ฉันก็(อยาก)จะกล่าวว่า اَلْحَمْدُ للهِ، وَالسَّلاَمُ عَلَى رَسُوْلِ اللهِ (เหมือนที่ท่านกล่าวนั่นแหละ) แต่ท่านรอซู้ลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมมิได้สอนเราอย่างนี้ .. ท่านสอนเราให้กล่าว(หลังจากจาม) เพียงว่า .. اَلْحَمْدُ للهِ عَلَى كُلِّ حَالٍ

ท่านอับดุลลอฮ์ อิบนุอุมุรฺ ร.ฎ. มิได้กล่าวตำหนิชายผู้นั้นว่าทำบิดอะฮ์! .. แต่ท่าน "ติง" เขานิ่มๆว่า การที่เขาจามแล้วเพิ่มเติมการกล่าว وَالسَّلاَمُ عَلَى رَسُوْلِ اللهِ หลังจากกล่าว اَلْحَمْدُ للهِ ด้วยนั้น แม้จะเป็นสิ่งที่ดีแม้กระทั่งในทัศนะของท่านเอง แต่ก็เป็นสิ่งไม่ควรกระทำ เพราะเป็นการนำสิ่งดีมาใช้ไม่ถูกกาละเทศะ และเป็นการกล่าวให้เกินเลยจากที่ท่านนบีย์เคยสอนไว้ เนื่องจากท่านนบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมได้สอนให้กล่าวหลังจากจามเพียงว่า اَلْحَمْدُ للهِ عَلَى كُلِّ حَالٍ! เท่านั้น ..
.
อุทาหรณ์จากหะดีษบทนี้ ผมจึงขอให้ผู้อ่านทุกท่านไปตรวจสอบดูว่า ซิกรุ้ลลอฮ์ที่ท่านนบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม สอนหรือกล่าวหลังจากละหมาดแล้วนั้น คืออะไรบ้าง ? .. ท่านเคยสอนให้อ่านศ่อละวาตแก่ท่านด้วยถ้อยคำและท่วงทำนองอย่างที่พวกเราปฏิบัติกันหรือไม่ ? ...

ถ้าท่านตอบว่า ท่านนบีย์ไม่เคยสอน ผมก็ขอถามว่า แล้วซิกรุ้ลลอฮ์ต่างๆซึ่งทุกคนยอมรับเป็นเอกฉันท์ว่าเป็น "ซุนนะฮ์จริงๆ" ที่ท่านสอนให้เราอ่านหลังจากละหมาด แต่ละเวลานั้น ...

เราอ่านกันหมดแล้วหรือ ถึงไปกล่าวเพิ่มเติมสิ่งที่ท่านมิได้สอน ????? ....

โปรดอ่านทบทวนหะดีษบทข้างต้นหลายๆเที่ยว ก่อนจะตอบคำถามของผม